เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2567 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ที่เพิ่งประกาศผลไป ซึ่งผู้ที่ชนะการเลือกตั้งคือนายชาญ พวงเพ็ชร์ ซึ่งตามข่าวของสำนักข่าวอิศรา ปรากฏว่าเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งเรื่องนี้ สำนักข่าวอิศรา ลงข่าวที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง และมีเนื้อหาสาระมาก ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยเฉพาะความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 1486/2565 ซึ่งมีความเห็นไว้สองประเด็น ดังนี้

“ประเด็นที่หนึ่ง ในกรณีที่หารือว่า การที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดผู้บริหารท้องถิ่นจำนวนสามราย ในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา และต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้ประทับฟ้องในคดีอาญาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดโดยที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามรายได้พ้นจากตำแหน่งเดิมไปแล้ว และได้รับการเลือกตั้งใหม่นั้น ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามรายดังกล่าว จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) พิจารณาแล้ว เห็นว่าการที่มาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เจตนารมณ์ประการหนึ่งก็เพราะว่าในกรณีที่ศาลพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิดจะมีผลทำให้บุคคลนั้นหมดสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้งหรือเข้าดำรงตำแหน่งนั้นอีกต่อไป การให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ จึงเป็นการยุติความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง ดังนั้น ไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะพ้นจากตำแหน่งและกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมใหม่ในอีกวาระหนึ่ง จึงมิได้ทำให้การต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมายเปลี่ยนแปลงไป นอกจากเหตุผลดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการป้องกันมิให้มีการใช้อำนาจหรือการสั่งการใด ๆ ที่อาจมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายได้ ดังนั้น กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามรายซึ่งถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้ประทับฟ้องในคดีอาญาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดโดยที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามรายได้พ้นจากตำแหน่งเดิมไปแล้ว และอยู่ระหว่างการดำรงตำแหน่งเดิมในวาระใหม่ จึงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยผลของมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ

“ประเด็นที่สอง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้ประทับฟ้องแล้ว ผู้กำกับดูแลผู้บริหารท้องถิ่นจะต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่อีกครั้งหรือไม่นั้น เห็นว่า เมื่อการหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นไปโดยผลของมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ แล้ว ผู้กำกับดูแลจึงไม่ต้องมีคำสั่งให้ผู้บริหารท้องถิ่นผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่อีก แต่ผู้กำกับดูแลยังคงมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมายอย่างเคร่งครัด”

นายเรืองไกร กล่าวว่า กรณีการเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี เมื่อไปพิจารณาในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงมีเหตุอันควรขอให้ รมว.มหาดไทย รีบทำการตรวจสอบ ว่าผู้กำกับดูแลยังคงมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณี นายก อบจ.ปทุมธานี คือ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 67 ว่าจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามความใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 หรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวสรุปว่า วันนี้ ตนจึงส่งหนังสือถึง รมว.มหาดไทย ทางไปรษณีย์ EMS เพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไปแล้ว.