“ช้างศึกจูเนียร์” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะพบ “จิงโจ้” ออสเตรเลีย ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลอายุไม่เกิน 16 ปี ชิงแชมป์อาเซียน 2024 ที่เมืองสุราการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยการดวลแข้งมีที่มานาฮาน สเตเดี้ยม วันที่ 3 ก.ค. 67 เวลาไทย 19.30 น. ถ่ายทอดสด ทาง เฟซบุ๊ก FA Thailand, ช้างศึก และ ยูทูบ ช้างศึก

รอบรองชนะเลิศ เพิ่งแข่งเมื่อ 1 ก.ค. 67 ทีมไทย ชนะ เวียดนาม 2-1 ชนิดได้ประตูชัยช่วงทดเวลา ส่วน ออสเตรเลีย ชนะ อินโดนีเซีย 5-3 โดย ไทยกับออสเตรเลีย เจอกันนัดแรก เสมอ 0-0 ไทยเป็นแชมป์มา 3 สมัย มากสุดเท่ากับ เวียดนาม ถ้าชนะจะทำสถิติได้แชมป์มากสุดทีมเดียว และเป็นแชมป์รายการนี้ครั้งแรกใน 9 ปี

วันที่ 2 ก.ค. 67 มีการแถลงข่าว จเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมไทย กล่าวว่า ทีมได้พักสั้นๆ แค่วันเดียว นักเตะอาจล้าอยู่บ้าง จะพยายามเตรียมทีมให้พร้อมที่สุด ออสเตรเลีย เป็นทีมที่แข็งแกร่ง นักเตะบางคนเล่นในเอลีก รูปร่างสูงใหญ่ เหมือนกับทีมจากยุโรปเลย และหลายคนน่าจะสามารถขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่ได้ การเจอกันในเกมนัดชิง คงจะแตกต่างจากเกมรอบแบ่งกลุ่ม แต่ในความคิดตนคือถ้าหากมีเวลาพักมากกว่านี้ เกมอาจจะมีคุณภาพ และสนุกมากกว่านี้ ซึ่งเป็นความคิดเดียวกับโค้ชออสเตรเลีย

เซอร์เด็จ กล่าวด้วยว่า ต้องชื่นชมหัวจิตหัวใจของนักเตะ หลังจากสามารถกลับมาได้หลังจากที่โดนนำไปก่อน สองนัดที่พบกับ มาเลเซีย (นัดสุดท้ายรอบแรก ชนะ 3-1) และ เวียดนาม มีการใส่จิตวิทยาเข้าไป นักเตะเองมีสภาพจิตใจที่ดีด้วย รวมกันเป็นหนึ่งและพยายามกระตุ้นซึ่งกันและกันจนทำให้สามารถกลับมาชนะได้ใน 2 เกมหลัง

ส่วนอาการของ ภูริพันธ์ โพธิ์ทอง ที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะกระแทก จากเกมล่าสุดกับเวียดนาม จนต้องส่งโรงพยาบาลทันทีนั้น เซอร์เด็จ เผยว่าตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว ขอบคุณแพทย์ของทีมที่ดูแลเป็นอย่างดี รวมถึงโรงพยาบาลที่อินโดนีเซีย ที่ให้ความช่วยเหลือ