เมื่อวันที่ 2 ก.ค. เวลา 09.05 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.) สัญจร ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีการเปิดเผยเอกสารคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดนายชาญ พวงเพ็ชร์ สมัยเป็นนายก อบจ. ปี 2555 และมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ว่า กรณีของนายชาญ ไม่น่ามีปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่ ป.ป.ช. ส่งเรื่องต่อศาลตั้งแต่ปี 2555 โดยศาลประทับรับฟ้อง และนายชาญได้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว จึงถือว่าจบไป

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือเวียนถือเรื่องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกา การจะหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ต้องเป็นคำสั่งศาลไม่ใช่เป็นไปตามอัตโนมัติ ขณะนี้นายชาญ มีสิทธิดำรงตำแหน่งนายก อบจ. เพราะในขณะสมัครไม่ได้ขาดคุณสมบัติ และสามารถประกาศรับรองได้ แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงควรปล่อยไปตามข้อกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และยังไม่มีกฎหมายใดออกมาห้าม และศาลยังไม่มีคำสั่งว่านายชาญ มีความผิด และยังมีสิทธิต่อสู้ แต่หากอนาคตศาลตัดสินว่ามีความผิดทุกอย่างก็จบ

“เวลานี้ทุกคนอย่าเพิ่งคิดไปไกล ให้รอศาลพิจารณา สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับประเทศไทย คือคนจินตนาการไปก่อนศาลตัดสิน ซึ่งเป็นการละเมิดดุลพินิจศาล ทุกอย่างควรเป็นไปตามกระบวนการ และดุลพินิจของศาลที่จะสรุปความชัดเจนและปฏิบัติไปตาม“ รองนายกฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในระหว่างที่ศาลยังไม่ได้ชี้ชัดบุคคลที่ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ. ควรหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า นี่คือความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ทั้งหมดต้องรอให้ศาลมีคำสั่ง และมีหลายเรื่องที่คณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็น แต่ศาลตัดสินเป็นอย่างอื่น จึงไม่ควรก้าวล่วงดุลพินิจศาล

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยได้ทราบเรื่องคดีก่อนส่งผู้สมัครหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ฝ่ายพิจารณาบุคคลลงสมัครของพรรคเพื่อไทย คงไตร่ตรองดีแล้ว แต่ตนไม่ทราบรายละเอียด

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรเมื่อจบเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี แล้วมีการเปิดเผยเรื่องดังกล่าวทันที นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาในสังคมไทย เวลาเสร็จเลือกตั้งทีไรก็จะมีการวิจารณ์ ก่อนเลือกตั้งก็ใช้โพลมาพูดกัน ซึ่งตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง ดังนั้นควรรอให้กระบวนการยุติธรรม โดยไม่ต้องโทษใครกลั่นแกล้งใคร หรือใครรื้อฟื้นอะไร หากยึดกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ก็สบายใจได้