เชื่อว่าอาชีพ “ครู” นับเป็นอีกหนึ่งความฝันของผู้คนมากมาย เพราะเป็นอาชีพที่มั่งคงมาก และได้รับข้าราชการ มีสวัสดิการของภาครัฐรับรองมากมาย แต่ในทางกลับกัน บางคนที่ได้เข้าไปสัมผัสอาชีพนี้แล้ว ต่างก็หันหลังลาออกมาทันที แม้ว่าจะมั่นคงแค่ไหน เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของคุณครูท่านนี้ ที่ตั้งใจอ่านหนังสือสอบมาหลายปี พอได้บรรจุและทำงานตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมายนั้น แต่สุดท้ายสิ่งที่คิดก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็น จนต้องขอโบกมือลา

โดยคุณครูโพสต์เล่าผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งเขียนข้อความระบุว่า พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้วกับคำว่าข้าราชการครู 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ตอนอ่านหนังสือสอบแทบเป็นแทบตาย ต้้งใจมากเพื่อให้สอบติดได้ประกอบอาชีพครูที่เราคิดไว้ พอสอบติดก็ตั้งใจเพื่อเด็ก 100% ความเป็นจริงอาชีพครู ในความคิดว่าจะได้อยู่ห้องเรียนกับเด็กทำแผนการสอนทำสื่อพาเด็ก ๆ ทำกิจกรรมการเรียนรู้ พัฒนาความคิดจิตใจมุมมองให้เขาโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ เป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีพลังงานดีๆ ให้แก่เพื่อนมนุษย์

ความเป็นจริงครูมีหน้าที่อื่นมากมาย ระบบภายใน งานเอกสารสารพัด งานประเมิน ตรวจสอบ อบรม รับนายตามนโยบาย 108 บางคนควบงาน วิชาการ อาหารกลางวัน พัสดุ การเงิน ความเสี่ยงและอื่น ๆ ซึ่งไม่สอดคล้องกับที่ตั้งใจมาประกอบอาชีพนี้ (ไม่เหมารวมนะคะ บางคนอาจชอบงานลักษณะนี้สายนี้แต่ไม่ใช่เรา)

งานที่ครูรับผิดชอบอื่นที่นอกเหนือจากการสอน มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ความตึงเครียดสะสม เริ่มไม่อยากตื่นจากที่นอน กลับบ้านล้าร่างกายล้า สมองไม่อยากรับรู้ ไม่อยากดิ้นไม่อยากอ้าปากพูด เบื่อหน่ายกับทุกสิ่ง ไม่อยากทำอะไรเลย ร่างกายรวนหมดหาหมอบ่อยขึ้น

จนคนในครอบครัวเห็นพร้อมกันว่า อยากให้ลูกเป็นข้าราชการครูนะ แต่พอกลับมาแต่ละวันงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบเพิ่มขึ้น ๆ สภาพลูก ดูไม่โอเคเลย คิดว่าลูกเป็นข้าราชการลูกจะสบาย เพราะถูกสอนมาเป็นแบบนั้น พอมารับรู้จริง ๆ สภาพจริง รู้ว่าให้ทนลูกทนได้ แต่ไม่ต้องแล้ว ตอนนี้อยากเห็นลูกมีความสุขสดใสมากกว่า ถ้าเกิดลูกเป็นอะไรมันไม่คุ้มเลย ให้สิทธิการตัดสินใจแล้วแต่เราเลย

กลับมาคิดทบทวนในตัวเองว่า ที่เป็นอยู่จากนี้และอีกสิบ ๆ ปีโอเคไหม? ตื่นมาแบบนี้ทุกวันโอเคไหม? ใช่รูปแบบการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์การมีชีวิตที่เหลือจากนี้ไหม? (เราก็มีงานส่วนตัวอื่น ๆ ที่ทำนอกเวลาซึ่งทุกงานมีระบบและคนดูแลอยู่แล้ววางระบบแล้ว) มองไปคนข้างหลัง เราทำให้ครอบครัวพ่อแม่สุขสบายโอเคแล้ว

เริ่มหันมองตัวเองสภาพในกระจกวันแล้ววันเล่า ตกตะกอนมาเป็น ขอหันหลังให้ระบบนี้ แต่ไม่ได้วางความเป็นครู ประสงค์ที่ดีกับเด็ก ๆเสมอและตลอดมา ถ้าเรามีทุนสูงขึ้นก็คงให้เด็ก ๆ ได้มากขึ้น ให้เด็ก ๆ ในรูปแบบอื่น ๆ แล้วกันนะ พวกกิจกรรมจิตอาสา การบริจาค
สนับสนุน ก็คงจะลงที่ตัวเด็กได้โดยตรงกว่านี้ จะได้พาตัวเองไปเรียนรู้รูปแบบการใช้ชีวิต ที่ไม่ใช่งานประจำ ออกมาค้าขายธุรกิจส่วนตัว บริหารงานด้วยตัวเองตามเวลาที่ตัวเองวาง ปิดนาฬิกาปลุกที่เคยเลื่อนในทุก ๆ เช้า ออกเรียนรู้ในแบบฉบับของเรา ซื้อประกันชีวิต วางแผนการเงินดีดี ท่องเที่ยวเดินทางพักผ่อนเมื่อวันที่เหมาะสม

ก็ไม่มีใครรู้อนาคตหรอก แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองอยู่ดี ผู้อ่านก็เช่นกัน อย่างว่า ครูคืออาชีพที่เรารักและชอบในการสอน แต่คงไม่ใช่ในรูปแบบระบบนี้ ในระหว่างทางกับนักเรียนมันสวยงามและดีต่อใจมาก ความเป็นครูกับนักเรียนเป็นสิ่งเดียวที่คิดถึงหาในขณะประกอบอาชีพข้าราชการครู หกปีกว่ามานี้ นึกถึงรอยยิ้มเสียงเรียก ความรักบริสุทธิ์สดใสในหัวใจในแววตาของพวกหนู คืออิ่มหัวใจครูที่สุดเลยนะ ทุกอาชีพมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เคารพในความเป็นคนของทุกคนทุกอาชีพ

ทุกความคิดเห็นของการมองจากมุมที่แตกต่าง ขอบคุณช่วงเวลาที่ผ่านมาเต็มที่สุด ๆ แล้ว ทำตามหน้าที่ตรงนั้นมาเต็มที่แล้ว ขอทำตามใจ และรับผิดชอบชีวิตตัวเองในรูปแบบใหม่ต่อจากนี้ เราจะออกไปใช้ชีวิตในอีกแบบที่เลือกแล้วนะ สวมชุดสีกากีวันสุดท้ายกับตำแหน่งข้าราชการครู ลาละนะ คำว่าข้าราชการ…