หลายจังหวัดทั่วประเทศไทย ยื่นหนังสือเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 50 ในเดือน ต.ค. 67 นี้

สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีแผนจัดการแข่งขันฟุตบอลที่ต่างจังหวัด ตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ระหว่างวันที่ 7-15 ต.ค. 67 จัดแบบทัวร์นาเมนต์ 4 ทีม ซึ่งคาดว่าจะเป็นศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 50 หลังจากที่การจัด 3 ครั้งหลัง ไปแข่งขันที่ต่างจังหวัดตลอด โดยครั้งที่ 47 ไป บุรีรัมย์ และครั้งที่ 48-49 จัดที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งประสบความสำเร็จ กระแสแฟนบอลให้การตอบรับอย่างดี

สมาคมลูกหนังไทย เปิดให้จังหวัดที่สนใจ และมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอล International ‘A’ Match ในช่วงปฏิทินฟีฟ่า ดังกล่าว สามารถแสดงความจำนงเพื่อให้เกิดการพัฒนาในด้านศักยภาพการจัดการกีฬา และมีการยกระดับสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา กระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ให้ส่งเอกสารยื่นความจำนงค์ภายในวันที่ 1 ก.ค. 67 โดยหลังจากปิดการรับสมัครแล้ว คาดว่า สมาคมฯ จะเผยรายชื่อจังหวัดที่ยื่นขอจัดแข่งขันต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดที่เสนอตัวขอจัดแข่งขันนั้น คาดว่าจะมีอย่างน้อย 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่, เชียงราย 2 จังหวัดภาคเหนือ และ สงขลา ของภาคใต้

จ.เชียงใหม่ เป็นเจ้าภาพมาแล้ว 2 ครั้งหลังสุด ที่สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี และในปีนี้ก็ยังยื่นสมัครต่อ “นายกก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เผยกับ “กีฬาเดลินิวส์” ว่าจังหวัดเชียงใหม่, อบจ.เชียงใหม่ และ การกีฬาแห่งประเทศไทยภาค 5 เสนอตัวจัดเรียบร้อย ยื่นหนังสือเสนอตัวเมื่อ 26 มิ.ย. 67 ใช้สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ส่วนเรื่องงบประมาณจัดแข่งขัน ยังไม่ได้ลงในรายละเอียด ต้องรอให้ สมาคมฯ เลือกเจ้าภาพก่อน

ด้าน จ.เชียงราย นั้น “บิ๊กฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช ประธานเชียงราย ยูไนเต็ด ก็เผยว่า สนามของเชียงราย พร้อมเต็มที่ มีห้องพักนักกีฬา 4 ห้อง จริงๆ พร้อมมาตั้งแต่การเสนอตัวครั้งก่อนแล้ว

ขณะที่ จ.สงขลา นั้น นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา มีหนังสือถึง สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 67 มีความประสงค์ขอจัดแข่งขัน โดยใช้สนามกีฬาติณสูลานนท์ ซึ่งได้มาตรฐานของ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) มั่นใจว่ามีศักยภาพ และพร้อมจัดแข่งขันแน่นอน

ส่วนจังหวัดอื่นที่มีกระแส เช่น จ.ศรีสะเกษ รายงานข่าวระบุว่า อาจติดปัญหาเรื่องงบประมาณ ต้องรอดูว่าสุดท้ายจะเสนอชื่อหรือไม่

เกณฑ์เบื้องต้น ที่สมาคมฯ ระบุไว้ สำหรับจังหวัดที่มีความพร้อมพื้นฐานตามเกณฑ์ต่างๆ ของแมตช์นานาชาติ อาทิ สนามแข่งขัน ห้องปฏิบัติการ และสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นไปตามมาตรฐานขั้นต่ำของไทยลีก หรือ เอเอฟซี (เนื่องจากเป็นทัวร์นาเมนต์ 4 ทีม จะต้องมีสนามซ้อมอย่างน้อย 2 สนาม และห้องแต่งตัวของสนามแข่งขันอีก 4 ห้อง), ไฟส่องสว่างสนามแข่งขันที่ได้มาตรฐาน, สนามซ้อมที่ได้มาตรฐาน, ไฟส่องสว่างสนามซ้อม ที่ได้มาตรฐาน, โรงแรม ในระดับ 4-5 ดาว และเพียงพอต่อการรองรับ บุคลากรในส่วนต่างๆ ทั้งในเรื่องของทีมแข่งขัน, คณะผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน, อาหารนานาชาติ, การเดินทางจากสนามบินนานาชาติ และสนามบินในประเทศ ที่ไม่ได้อยู่ห่างเกินไป, บุคลากรจัดการแข่งขัน

สำหรับการคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพฟุตบอลคิงส์คัพนั้น คาดว่าจะตัดสินในการประชุมสภากรรมการบริหารสมาคมฟุตบอลที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.ค.

ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งล่าสุด ครั้งที่ 47 ที่ จ.เชียงใหม่ ไทย เข้าชิงชนะเลิศ กับ อิรัก ก่อน อิรัก ชนะจุดโทษ ทำให้ ช้างศึก ต้องรอแชมป์ต่อไป หลังจากได้ครั้งสุดท้าย เมื่อปี 2560 ในการจัดครั้งที่ 45