เมื่อวันที่ 1 ก.ค. หลัง ผลการนับคะแนนเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี อย่างไม่เป็นทางการออกมา นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัคร หมายเลข 1 ได้คะแนนทั้งสิ้น 203,010 คะแนน ชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัคร หมายเลข 3 ได้คะแนน 201,041 คะแนน

สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้เหล่ากูรู ทางการเมืองต่างฟันธงกันไปว่า ปัจจัยในการคว้าชนะมีหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล นโยบายพรรค หรือลักษณะเหตุการณ์ในพื้นที่ โดยเฉพาะชาวปทุมธานีเอง ก็ต้องการเปลี่ยนแปลงจากสมัยที่ผ่านมา

สำหรับ ชาญ เกิดวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2505 ที่ตำบลบ้านงิ้ว อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เป็นบุตรของ นางแวว พวงเพ็ชร์ สำเร็จการการศึกษาปริญญาโท คณะรัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาลัยปทุมธานี

การทำงาน เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน และกำนันตำบลบ้านงิ้ว วิทยากรบรรยายพิเศษ ด้านการเมืองการปกครอง และการจัดการภัยพิบัติในท้องถิ่น ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มปทุมรักไทย และยังมีท้องถิ่นที่อยู่ทีมเดียวกัน ได้นำชื่อกลุ่มลงสมัครการเมือง อบต. ในจังหวัดปทุมธานี อดีตประธานสโมสรปทุมธานี เอฟซี ในปี พ.ศ. 2553

ชาญ เริ่มลงสนามการเมืองครั้งแรก ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เขตอำเภอสามโคก ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 และได้รับเลือกตั้งในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2547 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2547

ชาญ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ในสังกัดกลุ่มปทุมรักไทยที่ตนเองได้ก่อตั้งขึ้น และได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหาญสวัสดิ์ ซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงในจังหวัดปทุมธานี โดยในการเลือกตั้งครั้งแรกนั้น เขาชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนน 119,456 คะแนน ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2551 ชาญได้ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งเดิมอีกครั้ง และยังได้รับเลือกตั้งอีกสมัย

ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2555 ชาญได้ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งเดิมอีกครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนจาก พรรคภูมิใจไทย พร้อมกับ สส.ของพรรคเพื่อไทยอย่าง สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล และตระกูลนพขำ แข่งกับ ว่าที่ร้อยตรี สุเมธ ฤทธาคนี อดีต สส.ปทุมธานี เขต 5 ซึ่งได้ลาออกมาเพื่อลงสนามการเลือกตั้งครั้งนี้โดยเฉพาะ แต่ชาญก็ได้รับชัยชนะอีกครั้ง โดยได้คะแนน 214,429 คะแนน ชนะสุเมธที่ได้คะแนน 110,974 คะแนน ครั้งนี้ได้ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 3 โดยชาญยืนยันว่า แม้จะเป็นคนของพรรคภูมิใจไทย แต่พร้อมร่วมงานเพื่อพัฒนา ช่วยเหลือชาวปทุมธานีกับทุกพรรค

ชาญ ได้กล่าวไว้ว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง เนื่องจากการช่วยเหลือในเหตุอุทกภัย พ.ศ. 2554 ทำให้ประชาชนไว้วางใจให้เขาดำรงตำแหน่งต่อ และนอกจากนี้ยังได้กล่าวอีกว่า มีอิทธิพลมืดพยายามทุกวิถีทางไม่ให้ตนชนะเลือกตั้ง ไม่ว่าจะการใส่ความตนให้เสียหายในช่วงการเลือกตั้ง หรือมีการจัดการประท้วง

ในการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในประเทศไทย พ.ศ. 2563 ชาญได้ลงสมัครรับเลือกตั้งตำแหน่งเดิมอีกครั้ง แข่งกับ พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 ชาญได้ร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ของ สุริยะ ภิรมย์พร้อม นายก อบต.ลาดหลุมแก้ว ซึ่งในงานมีแขกคนสำคัญอย่าง แพทองธาร ชินวัตร, ภูมิธรรม เวชยชัย, และอดีต สส. ของพรรคเพื่อไทย มาร่วมงานด้วยเช่นกัน ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ชาญจะลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งต่อไป ในเครือของพรรคเพื่อไทยแทนคำรณวิทย์

ภายหลังจากการลาออกของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ชาญประกาศตัวว่าพร้อมลงสมัครรับเลือกตั้ง และในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 ชาญได้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีเป็นคนแรก โดยได้หมายเลข 1 โดยมีสมาชิกพรรคและ สส.พรรคเพื่อไทย เดินทางมาร่วมด้วย อาทิ สรวงศ์ เทียนทอง, ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์, สุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล เป็นต้น

และล่าสุด เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ได้มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ชาญ ได้คะแนนมาอันดับ 1 และได้รับการเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี คนใหม่