เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่โดยด่วน เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ภายหลังจากเกิดเหตุฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ประกอบกับน้ำป่าไหลหลากมาจากเทือกเขา และระบายไม่ทัน ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย (น้ำท่วม) ในหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง พร้อมกันนี้ให้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล รวมถึงติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทางเลี่ยงบริเวณสายทางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดแผนหากเกิดสถานการณ์อุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น และเตรียมความพร้อมในขั้นตอนการป้องกัน (ก่อนเกิดภัย) การเผชิญเหตุ (ขณะเกิดภัย) และขั้นการฟื้นฟู (หลังเกิดภัย) นำไปสู่การบรรเทา แก้ไข หรือคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่ให้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินงานมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อรับทราบสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ด้วย โดย ทล. ได้จัดตั้งคณะทำงานเฝ้าระวังน้ำท่วมแล้ว มีนายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นผู้บัญชาการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 

ทั้งนี้ปัจจุบันไม่ได้มีการสั่งปิดการจราจร แต่มีการติดตั้งป้ายจราจรปิดเบี่ยงในพื้นที่ขาเข้าบริเวณสถานีน้ำมันปตท. ป่าครองชีพ เพื่อใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงให้รถเล็กสามารถใช้เส้นทางดังกล่าว รวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ที่น้ำท่วมขังบริเวณ ทล.402 หรือถนนเทพกระษัตรี ระหว่าง กม. ที่ 27+000-27+100 ฝั่งขาเข้า พื้นที่อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตโดยน้ำไหลท่วมช่องจราจรทั้ง 2 ช่อง (ฝั่งขาออก) ทำให้รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ขณะที่บริเวณ กม. ที่ 26+100 มีน้ำท่วมขังประมาณ 10-15 เซนติเมตร สาเหตุเกิดจากปริมาณน้ำระบายออกจากปลายท่อไม่ทัน ส่งผลให้ทะลักย้อนออกมาท่วมผิวจราจรต้องรอระบายเช่นกัน 

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และดำเนินการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทำการเปิดช่องทางสวนพิเศษให้รถวิ่งสวนทางกันบนทางหลวงในฝั่งขาเข้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และระบายปริมาณการจราจรออก รวมทั้งได้ช่วยเหลือรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ของประชาชนที่ประสบปัญหาในพื้นที่ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด คาดว่าหากวันที่ 30 มิ.ย. 67 ฝนไม่ตกลงมาเพิ่มปริมาณน้ำอีก เชื่อว่าปริมาณน้ำท่วมขังจะลดลงอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันยังได้มีการเฝ้าระวังในพื้นที่ใกล้เคียง อาทิ จังหวัดพังงา ด้วยเช่นกัน

ด้าน ทช. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตแล้ว โดยเฉพาะบริเวณที่การสัญจรมีน้ำขังผิวจราจร ซึ่งส่งผลต่อการเดินทางของประชาชน สำหรับบริเวณที่มีน้ำท่วมผิวจราจรในจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ ทางหลวงชนบทสาย ภก.3030 แยก ทล.402 (กม. ที่ 10+600)-บ้านกะทู้ อำเภอถลาง และกะทู้ เป็นต้น

ขณะที่ กม. ที่ 3+300 กม. ที่ 7+200 และ กม. ที่ 10+250 มีน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ แต่ล่าสุดเข้าสู่ขั้นตอนของรอการระบายแล้ว ส่วนเส้นทางอื่น ๆ หน่วยงานได้เร่งจัดทำแผนเชิงรุกเพื่อลงพื้นที่เข้าบริหารจัดการสถานการณ์ รวมทั้งได้เร่งดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน และจัดเจ้าหน้าที่เข้าอำนวยความสะดวกทุกพื้นที่ พร้อมแนะนำเส้นทางลัดทางเลี่ยงให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางสัญจรรับทราบ เพื่อให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยทุกการเดินทาง

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมที่จะเข้าดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้สถานการณ์ดังกล่าว เกิดผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชน แต่หากมีสถานการณ์ผิดปกติ จะเร่งส่งหน่วยงานเข้าลงพื้นที่และเร่งจัดการโดยทันที พร้อมกันนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายระหว่างเดินทางได้ที่สายด่วน ทล. โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586 กด 7 ตำรวจทางหลวง โทร. 1193 และสายด่วน ทช. โทร. 1146