สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองโมซุล ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ว่า ตัวแทนของยูเนสโก กล่าวว่า ทีมงานค้นพบอุปกรณ์ระเบิดขนาดใหญ่ 5 ชิ้น ในกำแพงทิศใต้ของห้องละหมาด ซึ่งมันถูกออกแบบมาเพื่อทำลายสถานที่แห่งนี้

มัสยิดอัล-นูรี และหอคอยสุเหร่า “อัล-ฮัดบา” ที่ตั้งอยู่ข้างกัน มีอายุย้อนกลับไปถึงช่วงศตวรรษที่ 12 และถูกทำลายระหว่างการสู้รบเพื่อยึดเมืองคืนจากกลุ่มไอเอส ซึ่งกองทัพอิรักกล่าวหาว่า กลุ่มไอเอสวางระเบิดและทำลายสถานที่ดังกล่าว

ทั้งนี้ ยูเนสโก ดำเนินการบูรณะมัสยิด และแหล่งมรดกทางสถาปัตยกรรมอื่น ๆ ในเมืองโมซุล ซึ่งส่วนใหญ่ถูกทำลาย จนกลายเป็นซากปรักหักพัง ในการต่อสู้ระหว่างอิรักกับกลุ่มไอเอส เมื่อปี 2560

ยูเนสโก ระบุเสริมว่า ระเบิดลูกหนึ่งถูกนำออกมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว แต่ระเบิดอีก 4 ลูกที่เหลือ น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ยังคงเชื่อมต่อกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าจะเก็บกู้เสร็จสิ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ พร้อมกับเปิดเผยว่า อุปกรณ์ระเบิดเหล่านี้ถูกซ่อนไว้ในกำแพง ซึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่เป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงไม่พบระเบิด เมื่อกองกำลังอิรักเข้าเคลียร์พื้นที่ในปี 2563

ด้านพล.อ.ตาห์ซีน อัล-คาฟาจี โฆษกกองบัญชาการปฏิบัติการร่วม ของกองกำลังอิรักหลายหน่วย ยืนยันการค้นพบอุปกรณ์ระเบิดหลายชิ้นจากมัสยิดอัล-นูรี พร้อมกับเสริมว่า เจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิดในภูมิภาค ได้ขอความช่วยเหลือจากกระทรวงกลาโหมในกรุงแบกแดด เพื่อปลดชนวนระเบิดที่เหลืออยู่ เนื่องจากโครงสร้างมีความซับซ้อน

อนึ่ง งานก่อสร้างบริเวณมัสยิดอัล-นูรี ถูกระงับชั่วคราว จนกว่าจะเคลื่อนย้ายระเบิดทั้งหมดออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ.

เครดิตภาพ : AFP