เมื่อวันที่ 29  มิ.ย. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา (มรภ.สวนสุนันทา)​ จัดโครงการพัฒนาครูต้นแบบในเขตภาคกลาง “พลิกโฉมคุณภาพการศึกษา โดยพัฒนาครูให้มีศักยภาพสอดคล้องกับศตวรรษที่ 21” ในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ สู่การสร้างผู้เรียนให้เป็นนวัตกร ตามโครงการพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาด้วยรูปแบบ Active Learning สําหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สพฐ. (1 อําเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ) ระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 29-30 มิ.ย. โดยจัดสถานที่อบรม 6 จุด คือ ระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนบางปะหัน โรงเรียนอยุธยานุสรณ์ โรงเรียนอุทัย และโรงเรียนเสนา เสนาประสิทธิ์ ระดับประถมศึกษา ที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) พระนครศรีอยุธยา เขต 1 และโรงเรียนวัดพระขาว โดยมีครูเข้ารับการอบรมรวมมากกว่า 1,000 คน

ดร.ภูธร จันทะหงษ์ ปุณยจรัสธำรง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวในการเป็นประธานเปิดการอบรมที่หอประชุมโรงเรียนอยุธยานุสรณ์ และผ่านแอปพลิเคชัน Zoom Cloud Meetings ว่า การอบรมครั้งนี้มุ่งเน้นตามโครงการของรัฐบาล 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ และรมว.ศึกษาธิการ ให้ความสำคัญกับการเรียนรูปแบบ Active Learning ซึ่งในอนาคตคงปฏิเสธเรื่องของ Active Learning ไม่ได้ โดยสพฐ.เล็งเห็นถึงความสำคัญของเรื่องนี้ จึงได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง 7 จังหวัด ได้ร่วมกับมรภ.สวนสุนันทาในการดำเนินการ โดยการจัดอบรครั้งนี้เป็นการต่อยอดและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ให้มากที่สุดหลังจากที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปฏิรูปการเรียนการสอนสู่ห้องเรียนอย่างแท้จริง ซึ่งการจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบ Active Learning ที่ได้ผลสิ่งหนึ่ง คือ การเรียนรู้ ด้วยกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps ซึ่งได้ทดลองและดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว และเห็นว่าจำเป็นต้องต่อยอดเพราะเห็นผลที่ชัดเจนและเกิดเป็นนวัตกรรมมากมาย

ดร.ดวงพร แสงทอง ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ มรภ.สวนสุนันทา กล่าวว่า การอบรมครั้งนี้เป็นความร่วมมือของ สพฐ.และมรภ.สวนสุนันทา ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นนอกจากครูที่จะเป็นครูต้นแบบแล้ว นักเรียนก็จะเป็นนวัตกร หมายความว่าผลจากการเรียนรู้ด้วยรูปแบบและกระบวนการจะเกิดกับทั้งผู้เรียนและครู เพราะทุกอย่างเกิดตามกระบวนการ นอกจากรูปแบบการเรียนที่เปลี่ยนไปแล้ว ยังจะได้เห็นการสร้างสรรค์ระหว่างการเรียนรู้ที่แตกต่างจากบทเรียนที่เด็กเคยเรียนมาด้วย รูปแบบการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นคือ Active Learning โดยผ่านกระบวนการคิดชั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps ซี่งมีกระบวนการเตรียมความพร้อมจากครูที่จะสอนเป็น สอนได้ อย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอน และสิ่งที่จะตามมาก็คือ ผู้เรียน นักเรียน จะได้กระบวนการคิดที่มีความแตกต่างออกไป ซึ่งสิ่งที่แตกต่างออกไป คือ เดิมเคยอยู่ในห้องเรียนก็คิดจากในกรอบ แต่วิธีการนี้จะเป็นการคิดนอกกรอบ ซึ่งมีขั้นมีตอนที่เด็กสามารถเรียนรู้และนำมาปรับใช้ได้ สุดท้ายเด็กจะได้กระบวนการ ได้ขั้นตอน และผลลัพธ์ที่ได้มาก็คือ นวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยแต่ละชิ้นจะมีความแตกต่างกันออกไปตามกลุ่มสาระการเรียนรู้

ด้าน ดร.ศักดิ์สิน โรจนสราญรมย์ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา กล่าวว่า หากย้อนไปในอดีตจะเห็นว่า เวลาเรียนเด็กจะนั่ง ฟัง อ่าน ท่อง เพื่อนำไปสอบเท่านั้น เมื่อสอบเสร็จแล้วก็จะลืมทันที ซึ่งการเรียนแบบเดิมเป็นการเรียนที่สอดคล้องกับการเรียนรู้ของสมองในส่วนความจำระยะสั้นเท่านั้น เมื่อเด็กเรียนในระดับที่สูงขึ้นก็จะลืมสิ่งที่เรียนมา ทำให้สมองไม่เกิดการพัฒนา แต่ถ้าเด็กได้เรียนด้วยรูปแบบ Active Learning ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps โดยได้คิดเอง ปฏิบัติเอง ตรวจสอบเอง แก้ปัญหาเอง สมองที่เรียนรู้นี้จะบันทึกความจำทั้งหมดไว้เป็นความจำระยะยาว ซึ่งนักการศึกษาชั้นนำของโลกก็พูดมานับ 100 ปีว่าการเรียนรู้ต้องผ่านการปฏิบัติจริง เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่จะต้องพลิกโฉมของประเทศด้วยกระบวนการเรียนรู้ทั้งระบบ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเปล่าทางการศึกษา