สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่า นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ บริจาคหุ้นบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ เพิ่มอีก 5,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 194,722 ล้านบาท) ให้แก่มูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ และองค์กรการกุศลของครอบครัวอีก 4 แห่ง ถือเป็นการบริจาคประจำปีครั้งใหญ่ที่สุดของเขา นับตั้งแต่ปี 2549

การบริจาคครั้งนี้ เพิ่มเงินบริจาคโดยรวมของบัฟเฟตต์ ซึ่งมอบให้แก่องค์กรการกุศล สะสมเป็นประมาณ 57,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐแล้ว (ราว 2 ล้านล้านบาท) รวมไปถึงการกุศลของครอบครัวในช่วงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา

สำหรับการบริจาคครั้งล่าสุดของบัฟเฟตต์ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา ครอบคลุมหุ้นของเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ประมาณ 13 ล้านหุ้น ขณะนี้ บัฟเฟตต์บริจาคหุ้นจำนวน 9.93 ล้านหุ้น ให้กับมูลนิธิเกตส์ และหุ้นบริษัทเบิร์กเชียร์แล้ว รวมเป็นเงินกว่า 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท)

นอกจากนั้น เขายังบริจาคหุ้น 993,035 หุ้น ให้กับมูลนิธิซูซาน ทอมป์สัน บัฟเฟตต์ ซึ่งตั้งชื่อตามภรรยาคนแรกผู้ล่วงลับ และหุ้น 695,122 หุ้น ให้กับองค์กรการกุศลทั้งสามแห่ง ที่บุตรของบัฟเฟตต์ คือ โฮวาร์ด, ซูซาน และปีเตอร์ ดูแลอยู่ ได้แก่มูลนิธิโฮวาร์ด จี. บัฟเฟตต์, มูลนิธิเชอร์วูด และมูลนิธิโนโว

ปัจจุบัน บัฟเฟตต์ วัย 93 ปี วางแผนที่จะมอบกำไรมากกว่าร้อยละ 99 ซึ่งได้จากการถือครองหุ้นเบิร์กเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ที่เมืองโอมาฮา ในรัฐเนแบรสกา ที่เขาบริหารมาตั้งแต่ปี 2508 ซึ่งบรรดาทายาทของเขา มีหน้าที่ดำเนินการตามพินัยกรรม

อนึ่ง เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ เป็นกลุ่มบริษัทซึ่งมีมูลค่าตลาดประมาณ 880,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32.3 ล้านล้านบาท) และเป็นเจ้าของธุรกิจหลายสิบแห่ง รวมถึงรถไฟบีเอ็นเอสเอฟ, ประกับภัยรถยนต์จีโค และเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของแอปเปิลด้วย

อย่างไรก็ตาม บัฟเฟตต์ยังคงถือหุ้นเบิร์กเชียร์อยู่ร้อยละ 14.5 ตามข้อมูล ณ วันที่ 28 มิ.ย. แม้มอบหุ้นไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่ง นับตั้งแต่ปี 2549 ก็ตาม และการยังมีทรัพย์สินมูลค่า 128,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.7 ล้านล้านบาท) ทำให้บัฟเฟตต์เป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 10 ของโลก ตามรายงานของนิตยสารฟอร์บส์

ขณะที่บัฟเฟตต์กล่าวในแถลงการณ์ ว่าเขามีทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.6 ล้านล้านบาท) เมื่อเริ่มการบริจาค แต่การลงทุน “ที่เรียบง่ายและมีการจัดสรรอย่างเหมาะสม” และนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอเมริกา ช่วยทำให้เขามีวันนี้

ตอนนี้ มูลนิธิซูซาน ทอมป์สัน บัฟเฟตต์ ให้ความช่วยเหลือด้านอนามัยเจริญพันธุ์ ขณะที่มูลนิธิโฮวาร์ด จี. บัฟเฟตต์ ทำงานช่วยบรรเทาความหิวโหยและบรรเทาความขัดแย้ง รวมไปถึงในยูเครน และปรับปรุงความปลอดภัยสาธารณะ ด้านมูลนิธิมูลนิธิเชอร์วูด สนับสนุนองค์กรไม่แสวงผลกำไรในรัฐเนแบรสกา ส่วนมูลนิธิโนโว ดำเนินโครงการช่วยเหลือเด็กผู้หญิงและสตรี

ทั้งนี้ เอกสาร ณ วันที่ 28 มิ.ย. ระบุว่า เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ไม่ได้ซื้อคืนหุ้นที่บัฟเฟตต์ถือครอง หรือแทบไม่ได้ซื้อเลย ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES