เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโรเบิร์ต เอฟ โกเดค เอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เข้าพบนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมในโครงการช่วยเหลือทางทหารในการเสนอขายเครื่องบินเอฟ-16 บล็อก 70 ของบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน หลังจากที่ได้ยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งยังไม่มีการเปิดข้อมูลว่า เนื้อหาในหนังสือที่ส่งให้นายกรัฐมนตรีนั้นมีรายละเอียดอย่างไร ทั้งนี้ คาดว่าเป็นการแจ้งข้อเสนอเรื่องการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมที่นอกจากโปรแกรมการซื้ออาวุธในโครงการความช่วยเหลือกับมิตรประเทศ และข้อมูลการค้าต่างตอบแทนที่มีกับไทย นอกจากนี้เอกอัครราชทูตสหรัฐ ได้เชิญนายสุทินไปเยือนสหรัฐด้วย

ขณะที่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ที่อยู่ระหว่างการเยือนกองทัพอากาศจีนอย่างเป็นทางการ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่ทราบเรื่องที่เอกอัครราชทูตสหรัฐ ส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี แต่กองทัพอากาศกำลังดำเนินการตามขั้นตอนในการคัดเลือกแบบให้มีความคุ้มค่าในทุกด้าน และเป็นไปตามนโยบายการตอบแทนทางเศรษฐกิจ โดยยังรับฟังข้อเสนอที่เพิ่มเติมจากทั้ง 2 ประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่นายสุทินเข้าร่วมการประชุมความมั่นคงระดับสูงของเอเชีย หรือแชงกรีล่า ไดอะล็อก (Shangri-La Dialogue) ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กลาโหมของสหรัฐ ได้หารือทวิภาคีกับนายสุทิน ซึ่งได้หยิบยกข้อเสนอในโปรแกรม Foreign Military Financing (FMF) ที่เป็นการมอบเงินช่วยเหลือและเงินกู้แก่ในรัฐบาลประเทศพันธมิตร เพื่อใช้ในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร และการฝึกอบรมของสหรัฐ แต่ประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณแต่มีความจำเป็นในการพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร จากเดิมที่มีการลดราคาเครื่องบินเอฟ-16 บล็อก 70 แล้วจะให้ผ่อนชำระในระยะยาว 9 ปี มีดอกเบี้ยต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำกว่ากรอบที่กำหนดไว้ และเป็นระยะเวลาที่ผ่อนยาวกว่าการจัดซื้อปกติ ซึ่งสหรัฐจะอนุมัติให้กับมิตรประเทศที่ใกล้ชิด

F-16 Block 70 first flight

นอกจากนี้มีรายงานว่า ในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ได้บรรจุรายละเอียดโครงการผูกพันงบประมาณในปีแรกวงเงินประมาณ 3,500 ล้านบาท จำนวน 4 โครงการ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นงบประมาณสำหรับการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทน 4 ลำ (ระยะที่ 1) แต่ในเอกสารงบประมาณดังกล่าว ไม่ได้แบ่งเป็นรายการให้เห็นว่าเป็นโครงการใดบ้าง ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ในช่วงเดือน ก.ค. นี้

ทำให้ระหว่างนี้ บริษัทและประเทศผู้ผลิตเครื่องบินรบ 2 ประเทศ คือบริษัท SABB ของสวีเดน ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องบินกริพเพน Gripen/E และบริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน ของสหรัฐ ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องบินเอฟ-16 บล็อก 70 ซี่งกองทัพอากาศให้ความสนใจ ต่างเร่งยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมเพื่อให้ชนะการคัดเลือกในโค้งสุดท้าย ขณะที่คณะกรรมการพิจารณารวบรวมข้อมูลฯ ที่มี พล.อ.อ.เสกสรร คันธา เสนาธิการทหารอากาศ เป็นประธาน ได้เลื่อนการแถลงข่าวผลสรุปว่า เครื่องบินแบบใดได้รับคะแนนลำดับที่ 1 และ 2 ออกไปก่อน เพราะต้องการรอเอกสารจากบริษัทก่อน จากนั้นกองทัพอากาศจะให้คณะกรรมการคัดเลือกแบบฯ เป็นผู้เลือกแบบในขั้นตอนสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม นายมาร์คัส วอลเลนเบิร์ก ประธานกลุ่มบริษัท SAAB SEB ได้เข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2567 ซึ่งวันต่อมา นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าได้พูดคุยกันหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องเครื่องบินกริพเพน โดยในปี 2568 นายกฯ จะเดินทางไปเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อีกครั้ง และอาจจัดเป็นฟอรั่มเล็กๆ ระหว่างไทยกับสวีเดน ในการนำบริษัทที่เกี่ยวข้อง 2 ประเทศ มาพูดคุยว่าจะพัฒนาเรื่องเทคโนโลยีร่วมกันได้หรือไม่ และนายก ระบุด้วยว่า กรณีของเครื่องบินเอฟ-16 ของสหรัฐ ถ้าซื้อ ก็ต้องมาพัฒนาที่เมืองไทยเช่นกัน เป็นการต่างตอบแทน