การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหรือยูโร 2024 ประจำวันอาทิตย์ที่ 30 มิ.ย. รอบ 16 ทีมสุดท้าย มีแข่ง 2 คู่ เกมแรกเวลา 23.00 น. ที่สนามอารีนา เอาฟ์ชาลเก ระหว่าง “สิงโตคำราม” อังกฤษ พบกับ “ทัพเหยี่ยว” สโลวาเกีย ส่วนอีกคู่เวลา 02.00 น. “กระทิงดุ” สเปน เจอกับทีมม้ามืด “เดอะ ครูเซเดอร์ส” จอร์เจีย หวดที่สนามโคโลญจน์ สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง PPTV36 (หมายเลข 36) ทั้ง 2 สนาม

*ลุ้นฟิตทริปเปียร์-เปลี่ยนมิดฟิลด์
อังกฤษ ทีมอันดับ 5 โลก ภายใต้การนำของ แกเรธ เซาธ์เกต เข้ารอบมาในฐานะแชมป์กลุ่ม C จากผลงานชนะ 1 เสมอ 2 แต่ฟอร์มไม่น่าประทับใจ โดนด่าจากทั้งนักวิจารณ์และแฟนบอลมาทุกนัด แต่มีโชคได้มาอยู่สายที่ถูกมองว่าไม่แข็งนัก เนื่องจากอยู่คนละฝั่งกับสเปน, เยอรมนี, โปรตุเกส, ฝรั่งเศส

ริปเปียร์ไม่ชัวร์

ความพร้อมล่าสุด คีแรน ทริปเปียร์ ยังเจ็บน่องไม่หาย จนไม่แน่ว่าจะพร้อมหรือไม่ ขณะที่ ลุค ชอว์ ซึ่งร้างสนามมาตั้งแต่เดือน ก.พ. ก็ยังไม่พร้อม คาดว่า เซาธ์เกต อาจขยับ เอซรี คอนซา มารับบทแบ๊กซ้ายชั่วคราว หากว่าทริปเปียร์ฟิตไม่ทัน ด้าน ฟิล โฟเดน ดาวเตะแมนฯ ซิตี กลับมาร่วมทีมฝึกซ้อมได้ตามปกติ หลังออกจากแคมป์ชั่วคราวเพื่อไปให้กำลังใจภรรยาที่คลอดลูกคนที่ 3 ขณะที่ แอนโธนี กอร์ดอน ปีกจากนิวคาสเซิล เกิดอุบัติเหตุปั่นจักรยานล้มจนบาดเจ็บที่คางและมือจนมีแผลเลือดออก แต่ไม่เป็นอะไรรุนแรง

*เมนูตัวจริงแทนกัลลาเกอร์

เมนูและพาลเมอร์

บรรดาสื่ออังกฤษคาดว่า นอกจากทริปเปียร์แล้ว อังกฤษจะเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียว โดยให้ คอบบี เมนู ดาวรุ่งจากแมนฯ ยูไนเต็ด ที่นัดก่อนเป็นตัวสำรองโชว์ฟอร์มดี จะได้ลงมาแทน คอนนอร์ กัลลาเกอร์ ยืนคู่กลางกับ เดแคลน ไรซ์ นอกนั้นเหมือนเดิม จอห์น สโตนส์ ผนึกกำลัง มาร์ค เกฮี ในแดนหลัง คีแรน ทริปเปียร์ หรือ เอซรี คอนซา และ ไคล์ วอล์คเกอร์ เป็นฟูลแบ๊ก ส่วนแนวรุก โฟเดน, จูด เบลลิงแฮม, บูกาโย ซากา และ แฮร์รี เคน

*สโลาวาเกียจัดชุดเดิมไปลุย
ด้าน สโลวาเกีย อันดับ 45 โลก ภายใต้การนำของกุนซือ ฟรานเชสโก คัลโซนา เข้ารอบมาในฐานะหนึ่งในอันดับ 3 ที่ดีที่สุด มีผลงานชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ขุมกำลังค่อนข้างลงตัว ไม่มีน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจากนัดล่าสุดที่เสมอโรมาเนีย 1-1 แผน 4-3-3 มิลาน สคริเนียร์ กองหลังจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง คุมแนวรับ 3 มิดฟิลด์มี ยูราย คุชกา, สตานิสลาฟ โลบอตกา และ อองเดรจ์ ดูดา ส่วนแดนหน้า เดวิด สเตรเลช, ลูคัส ฮาราสลิน และ อีวาน ชรานซ์

มิลาน สคริเนียร์

*เจอกันมาแข้งผู้ดีไม่เคยแพ้
สถิติเจอกันมาทั้งหมด 6 ครั้ง อังกฤษ ไม่เคยแพ้เลย คว้าชัย 5 เสมอ 1 ซึ่งการเสมอนั้น เกิดขึ้นในยูโร 2016 นัดสุดท้ายของรอบแรก ที่เสมอ 0-0 จากนั้น 2 ครั้งต่อมา ได้เจอกันในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่งอังกฤษชนะแบบไปกลับเมื่อปี 2017 ขณะที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของออพตา ประมวลผลแล้วมองว่า อังกฤษ มีโอกาสเข้ารอบต่อไปมากถึง 82% สโลวาเกีย มีโอกาสชนะแค่ 18%

*สคริเนียร์โวถลกหนังสิงโต
มิลาน สคริเนียร์ กองหลังตัวเก่งของสโลวาเกีย แสดงความมั่นใจว่า ทีมตนมีโอกาสพลิกล็อกเอาชนะอังกฤษผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ หลังจากที่สร้างความประหลาดใจเอาชนะเบลเยียมมาแล้ว ในการแข่งขันรอบแรก

สคริเนียร์ อธิบายว่า นักเตะอังกฤษกำลังโดนสื่อและแฟนบอลตัวเองกดดันอย่างมาก ทำให้สโลวาเกียมีสภาพจิตใจที่ได้เปรียบกว่า อีกทั้งนักเตะ “สิงโตคำราม” อาศัยแต่ความสามารถเฉพาะตัวแต่ยังเล่นกันไม่เข้าขา ทำให้ตนเชื่อมั่นว่าสโลวาเกียจะสามารถชนะได้

*กระทิงอย่างตึงใช้ชุดแกร่ง
คู่ต่อมาเวลา 02.00 น. ทีมชาติสเปน ทีมอันดับ 8 โลก เจอกับจอร์เจีย โดย หลุยส์ เดอ ลา ฟูเอนเต กุนซือทีมสเปน โชว์ฟอร์มได้หล่อสุดแล้วในทัวร์นาเมนต์ เนื่องจากเป็นทีมเดียวที่เก็บ 9 แต้มเต็ม จากการชนะรวดและยังไม่เสียประตูอีกด้วย โดยเกมนัดส่งท้ายรอบแรกที่ชนะแอลเบเนีย พวกเขาเปลี่ยนรวดเดียว 10 ตำแหน่ง แต่นัดนี้คาดว่าจะกลับไปใช้ชุดเดิมในนัดสองที่ชนะอิตาลี โรดรี มิดฟิลด์ตัวเก่งจากแมนฯ ซิตี พ้นโทษแบนเรียบร้อย

ผู้รักษาประตูใช้ อูไน ซิมอน แนวรับแบ๊กโฟร์ ดานี การ์บาฆาล, โรแมง เลอ นอร์กมองด์, อายเมริก ลาปอร์ต, มาร์ก กูกูเรยา ส่วนแดนกลางแข็งโป๊ก โรดรี, ฟาเบียน รุยซ์, เปดรี โดยมี ลามีน ยามาล, อัลบาโร โมราตา, นิโก วิลเลียมส์ เป็น 3 แนวรุก

ควิชา ควารัตสเคเลีย และ อัลบาโร โมราตา

*จอร์เจียวางหมากรับรอสวน
วิลลี ซาญอล กุนซือชาวฝรั่งเศสของจอร์เจีย อันดับ 74 โลก สร้างประวัติศาสตร์เข้ามาเล่นถ้วยเมเจอร์ครั้งแรกไม่พอ แต่ยังสามารถเข้าถึงรอบน็อกเอาต์ แถมล่าสุดยังช็อกโลกถล่ม โปรตุเกส 2-0 แต่หนนี้งานหนักหนาสาหัสอีก เมื่อต้องเจอสเปนที่ฟอร์มสุดจัดจ้าน คาดว่าซาญอลจะยึดสูตร 5-3-2 เน้นรับไว้ก่อนแล้วโต้กลับ ความพร้อมไม่มีใครเจ็บหรือแบน จึงน่าจะชุดเดิม อันซอร์ เมควาบิชวิลี พ้นโทษแบนก็จริงแต่ก็น่าจะสำรองเท่านั้น จอร์จี ชัคเวทัดเซ จะได้เล่นต่อไป ด้าน ควิชา ควารัตสเคเลีย ขึ้นไปเป็นกองหน้าคู่กับ จอร์จอส มิเคาทัดเซ ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตู เป็นตัวอันตรายที่สเปนประมาทไม่ได้ เพราะคมเอาเรื่อง

*สเปนเคยแพ้จอร์เจียมาแล้ว
ชื่อชั้นแม้ต่างกันมาก แต่สถิติเจอกันมา 7 ครั้ง สเปน เคยพลาดท่าแพ้ 1 ครั้ง ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อปี 2016 ซึ่งตอนนั้นจอร์เจียรั้งอันดับ 137 โลกด้วย แต่นอกเหนือจากนั้น สเปน ชนะได้ทั้งหมด รวมถึง 2 ครั้งล่าสุดในยูโร 2024 รอบคัดเลือก ที่ทั้งคู่อยู่กลุ่มเดียวกัน สเปน บุกชนะได้ก่อน 7-1 เดือน ก.ย. 2023 จากนั้นกลับมาเปิดบ้านชนะอีก 3-1 ในเดือน พ.ย. ปีเดียวกัน รวมสองนัดชนะ 10-2 ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของออพตาชี้ว่า สเปนโอกาสชนะ 82% จอร์เจีย มีโอกาสชนะแค่ 18%