สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ว่า น.ส.มาเรีย เรสซา ผู้สื่อข่าวหญิงชาวฟิลิปินส์ ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นพลเมืองฟิลิปปินส์คนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล โดยเธอได้รับรางวัลในสาขาสันติภาพประจำปีนี้ ร่วมกับนายดมิทรี มูราทอฟ ผู้สื่อข่าวชาวรัสเซีย กล่าวว่าการได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ "เหนือความคาดหมายอย่างสิ้นเชิง" 
ขณะเดียวกัน เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้ ซึ่งมอบให้แก่บุคคลในอาชีพสื่อสารมวลชน จะเป็นแรงสนับสนุนสำคัญให้กับการทำข่าวเชิงสืบสวน ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการที่จะสามารถเพิ่มแรงกดดัน "ให้ผู้มีอำนาจต้องรับผิดชอบ" 
นอกจากนี้ เรสซายังกล่าวถึงบรรยากาศการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน "โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก" ว่า "เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อประชาธิปไตย" เนื่องจากเฟซบุ๊กให้ความสำคัญกับ "การเผยแพร่เนื้อหาอันเป็นเท็จที่ขับเคลื่อนจากความโกรธและความเกลียดชัง มากกว่าคำนึงถึงความจริง" พร้อมทั้งเชื่อมโยงไปถึงการเลือกตั้งทั่วไปของฟิลิปปินส์ ในวันที่ 9 พ.ค.ปีหน้า ที่หนึ่งในตำแหน่งซึ่งจะมีการลงคะแนน คือ ประธานาธิบดี ว่า "เป็นสมรภูมิของความจริง เมื่อต้องต่อสู้ด้วยความจริง อาชีพสื่อสารมวลชนคือการเคลื่อนไหวที่มีส่วนสำคัญ"
ปัจจุบัน เรสซา อยู่ระหว่างได้รับการประกันตัวเพื่อต่อสู้ในกระบวนการศาลอีกอย่างน้อย 7 คดี ที่ล้วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าวของ "แรปป์เลอร์" สำนักข่าวออนไลน์ที่เธอร่วมก่อตั้ง เมื่อปี 2558 จะเข้ารับพระราชทานใบประกาศเกียรติคุณ เหรียญรางวัลโนเบล และเงินรางวัล 10 ล้านโครนานอร์เวย์ ( ราว 39.64 ล้านบาท ) แบ่งคนละครึ่งกับมูราทอฟ จากสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 ในพิธีซึ่งจะจัดขึ้น ณ ศาลาว่าการกรุงออสโล ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ ตรงกับวันคล้ายวันเสียชีวิตของนายอัลเฟรด โนเบล.

เครดิตภาพ : AP