สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่า ผลผลิตกาแฟที่ลดลงของเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกกาแฟโรบัสต้ารายใหญ่ของโลก ทำให้ราคากาแฟสายพันธุ์ดังกล่าวพุ่งขึ้นร้อยละ 40 ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ และเป็นสถิติการเพิ่มขึ้นของราคากาแฟโรบัสต้า สูงที่สุดภายในครึ่งแรกของปี นับตั้งแต่ปี 2551

ภาวะแห้งแล้งที่เวียดนามต้องเผชิญ ส่งผลกระทบต่อพืชผล และอาจนำไปสู่การขาดแคลนเมล็ดกาแฟเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ขณะที่บราซิล ผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก อาจเก็บเกี่ยวผลผลิตเมล็ดกาแฟอาราบิก้าได้น้อยกว่าที่คิดไว้ ส่งผลให้ราคาซื้อขายล่วงหน้าของเมล็ดกาแฟ ที่ตลาดนิวยอร์กและลอนดอนปรับตัวสูงขึ้น

ด้านตัวเลขของรัฐบาลสหรัฐคาดการณ์ว่า การผลิตจะแซงหน้าความต้องการที่ 5.6 ล้านกระสอบ ส่วนสโตนเอ็กซ์ บริษัทการเงินของสหรัฐ วิเคราะห์ว่า รายงานงบดุลทั่วโลกที่เข้มงวดขึ้นอาจนำความผันผวนเข้ามาสู่ตลาด

การปรับตัวของราคาโรบัสต้าครั้งใหญ่ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 อย่างไรก็ตาม แนวโน้มสภาพอากาศของทั้งเวียดนามและบราซิล ซึ่งดีขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมาเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน “หลังจากก่อนหน้านี้ ตลาดกาแฟขาดข่าวจูงใจนักลงทุน เพื่อช่วยให้กลับมามีความคึกคักอีกครั้ง”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES