สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่า สำนักงานกิจการไต้หวันในกรุงปักกิ่งออกแถลงการณ์ ว่า “ชาวไต้หวันส่วนใหญ่” สามารเดินทางมายังจีนได้ “โดยปราศจากความวิตกกังวล” และยืนยันว่า ระเบียบปฏิบัติใหม่ด้านกระบวนการยุติธรรมของจีน “มีผลเฉพาะกับบุคคลบางกลุ่มในไต้หวันเท่านั้น”


อนึ่ง รัฐบาลปักกิ่งไม่ปิดบังทัศนคติที่มีต่อรัฐบาลไทเป ตั้งแต่ยุคประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน จนถึงประธานาธิบดีไล่ ชิง-เต๋อ ผู้นำไต้หวันคนปัจจุบัน ที่จีนกล่าวว่า “คือหัวหน้าขบวนการแบ่งแยกดินแดน” และไล่เพิ่งกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ ว่า “จะไม่ยอมก้มหัว” ให้กับการกดขี่ข่มเหงของรัฐบาลปักกิ่ง


ทั้งนี้ สำนักงานกิจการแผ่นดินใหญ่ ในกรุงไทเป ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ยกระดับการเตือนภัยการเดินทางเยือนจีน ฮ่องกง และมาเก๊า เป็น “สีส้ม” ซึ่งเป็นขั้นที่สองรองจากสูงสุด โดยขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยง “การเดินทางที่ไม่จำเป็น”


อย่างไรก็ตาม หากมีการเดินทางเยือนจีน รัฐบาลไทเปเตือนพลเมือง ให้หลีกเลี่ยงการสนทนาเกี่ยวกับ “ประเด็นอ่อนไหว” อย่าบันทึกภาพสถานที่สำคัญทางทหาร สนามบิน และท่าเรือ ขณะเดียวกัน ชาวไต้หวันไม่ควรถือหนังสือเกี่ยวกับการเมือง ศาสนา และประวัติศาสตร์ เมื่ออยู่ตามสถานที่สาธารณะในจีน


ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของไต้หวันเกิดขึ้นราว 1 สัปดาห์ หลังจีนประกาศ “แนวทางปฏิบัติใหม่” สำหรับหน่วยงานด้านกระบวนการยุติธรรมทุกแห่ง เพื่อลงโทษทางอาญาต่อ “บรรดาแกนนำ” ที่ยังคงเคลื่อนไหวเพื่อการแบ่งแยกไต้หวันออกจากจีน และการเคลื่อนไหวเพื่อปลุกระดม ให้เกิดความพยายามแบ่งแยกดินแดนทุกรูปแบบ โดยกำหนดบทลงโทษประหารชีวิตกับ “บรรดาหัวโจก” ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน ส่วนผู้เข้าร่วมขบวนการ อาจเผชิญกับบทลงโทษจำคุกขั้นต่ำ 10 ปี และสูงสุดตลอดชีวิต


มาตรการดังกล่าวได้รับการบัญญัติ โดยอ้างอิงตามกฎหมายหลายมาตราของจีน รวมถึงกฎหมายต่อต้านการแบ่งแยกดินแดน เมื่อปี 2548 ซึ่งระบุด้วยว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชน (พีแอลเอ) “มีความชอบธรรมตามกฎหมาย” ที่จะใช้มาตรการทางทหารต่อไต้หวัน หากอีกฝ่ายประกาศเป็นเอกราช หรือพยายามแบ่งแยกดินแดนออกจากจีน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES