นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (9 ต.ค.64) พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 11 จังหวัด (26 สายทาง 50 แห่ง) การจราจรผ่านไม่ได้ 22 แห่ง ดังนี้ 1.จ.ขอนแก่น (ผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) ได้แก่ ทล.2 ท่าพระ-ขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 260 ซม., ทล.12 ขอนแก่น-พรหมนิมิตร ช่วง กม.ที่ 565+600 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามลำน้ำพอง) ระดับน้ำสูง 40 ซม.

ทล. 2065 พล-ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+625 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์, ทล. 2065 พล-ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+785 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์, ทล.2131 บ้านสะอาด-เหล่านางงาม ช่วง กม.ที่ 6+800-8+500 ระดับน้ำสูง 80-90 ซม. ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 2062 บ้านทุ่ม-มัญจาคีรี กม.0 ไปออกทางหลวงหมายเลข 12 บ้านฝาง-ขอนแก่น กม.540 เข้าเมืองขอนแก่น

2.นนทบุรี (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 ระดับน้ำสูง 20-25 ซม. ใช้จุดกลับรถต่างระดับบางใหญ่ที่ กม.18+500 แทน, ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 17+000 ระดับน้ำสูง 20-25 ซม. ใช้จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่ที่ กม.16+600 แทน, ทล.307 แยกสวนสมเด็จ-สะพานนนทบุรี ช่วง กม.ที่ 0+942 (จุดกลับรถใต้สะพานนนทบุรี) ระดับน้ำสูง 70 ซม. ใช้จุดกลับรถด้านหน้าแทน 3.สระบุรี (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.3034 หน้าพระลาน-บ้านครัว ช่วง กม.ที่ 13+500-15+800 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำสูง 20 ซม.

4.อ่างทอง (ผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 155 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 33+200 (จุดกลับรถใต้ท่อ Box Cul.) ระดับน้ำสูง 85 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 39+843 (จุดกลับรถวัดดอกไม้) ระดับน้ำสูง 50 ซม., ทล.33 นาคู-ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+200-36+400 (สี่แยกไฟแดงป่าโมก) ระดับน้ำสูง 10 ซม., ทล.309 บางเสด็จ-แยกที่ดิน ช่วง กม.ที่ 52+200-53+000 (จุดกลับรถบางศาลา) ระดับน้ำสูง 230 ซม. 5.ลพบุรี (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.3024 บ้านหมี่-เขาช่องลม ช่วง กม.ที่ 5+600-7+300 ระดับน้ำสูง 40 ซม. ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

6.พระนครศรีอยุธยา (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล.347 บางกระสั้น-บางปะหัน ช่วง กม.ที่ 40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 50 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล. 3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 180 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล. 3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 180 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน 7.สุพรรณบุรี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.33 สุพรรณบุรี-นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 80 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล. 340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 125 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน 

8.นครสวรรค์ (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.1 บ้านหว้า-วังไผ่ ช่วง กม.ที่ 339+600 (จุดกลับรถใต้สะพานเดชาติวงศ์) ระดับน้ำสูง 65 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน และ 9.ระนอง (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.4 เลียบญวณ-กระบุรี ช่วง กม.ที่ 588-100 มีดินสไลด์ การจราจรผ่านไม่ได้ใช้ทางเลี่ยงบ้านหินช้าง-เขานางหงส์แทน ทั้งนี้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยตามแผนการดำเนินการป้องกัน การฟื้นฟู และเยียวยาหลังสถานการณ์คลี่คลายในทุกมิติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงทีตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม

นอกจากนี้ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัย พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร ต้องการความช่วยเหลือติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) ติดตามรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1