เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.จิตติพล ผลพฤกษา ผบก.สอท.4, พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ร่วมกันแถลงผลทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนข้ามชาติตั้งฐานในเชียงใหม่ โทรฯหลอกเหยื่อโอนเงินจากประเทศจีน

พล.ต.ท.วรวัฒน์ เปิดเผยว่า บก.สอท.4 และ 5 ได้ร่วมกันสืบสวนขยายผลจากการจับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในพื้นที่ภาคใต้ จนพบว่ามีการใช้อุปกรณ์เกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์ และกลุ่มคนจีนทำงานลักษณะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ บก.สอท.4 จึงสืบสวนพบว่า มีพูลวิลล่าที่มีกลุ่มชาวต่างชาติรับ 10 คนพักอาศัยในลักษณะปกปิดมิดชิดมีรั้วและกล้องวงจรปิดโดยรอบ เปิดไฟทำงานตลอดช่วงกลางคืน จึงรวบรวมพยานหลักฐานนำหมายค้นเข้าตรวจค้น Brick Box Pool Villa & Café ที่ ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหา 13 ราย สัญชาติจีน 7 คน สัญชาติเมียนมา 6 คนคือ 1.MR. LUO. FUREN อายุ 23 ปี สัญชาติจีน 2.MISS XIE. YEPING อายุ 43 ปี สัญชาติจีน 3.MR.XIE. JUN อายุ 42 ปี สัญชาติจีน 4.MISS HUANG XIU YUAN อายุ 32 ปี สัญชาติจีน 5.MR. HUANG DONGLIN อายุ 35 ปี สัญชาติจีน 6.MR.XIE WEIQIANG อายุ 24 ปี สัญชาติจีน 7.MR.XIE. XIN อายุ 26 ปี สัญชาติจีน 8.MISS CHIN LAN อายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา 9.MISS RUN MAY YIN อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา 10.MISS YAN KYAIN LAR อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา 11.MISS SHOUT AE อายุ 24 ปี สัญชาติเมียนมา 12.MISS SWAN KYIN อายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา 13.MISS MAR SEE SHAN อายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ พร้อมซิมการ์ดจีน 90 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 9 เครื่อง เอกสารเขียนด้วยลายมือภาษาจีน 1 ชุด และอื่นๆ รวมกว่า 104 รายการ

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ได้ร่วมกันหลอกลวงคนจีนที่ประเทศจีน ให้ลงทุนประกันเงินออมระยะยาว โดยทุกคนจะมีโทรศัพท์ประจำตัวคนละ 3 เครื่อง และโทรศัพท์ไปหลอกคนจีนตามรายชื่อที่มีผู้ส่งมาให้ทางแอปพลิเคชันเทเลแกรมในเครื่องโทรศัพท์ เพื่อหลอกว่าประกันที่ทำอยู่หมดอายุ และขายประกันที่ไม่มีจริงโดยมีค่าใช้จ่าย รวมทั้งหลอกนำข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชนไปส่งให้ผู้กระทำผิดอีกกลุ่มหนึ่งเพื่อดูดเงินจากบัญชีของเหยื่อ

เบื้องต้น แจ้งข้อหาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, อั้งยี่ ซ่องโจร, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และ พ.ร.บ.คอมพ์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ และนำตัวส่ง บก.สอท.4 และขยายผลสืบสวนต่อไป จะแจ้งอัยการสูงสุดให้ร่วมสอบสวนด้วยเนื่องจากเป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ ยืนยันจะไม่ให้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยเด็ดขาด

ขณะที่ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กล่าวว่า แก๊งนี้คาดว่าจะหลอกลวงผู้เสียหายต่อวันนับ 10 ราย ความเสียหายวันละกว่าล้านบาท ขณะนี้พบตัวผู้เสียหายชาวจีนชัดเจน 2 ราย แต่คาดว่าจะมีผู้เสียหายทั่วประเทศจีนทั้งหมดกว่า 20 ราย ซึ่งกรณีนี้ทางตำรวจไซเบอร์จะเดินทางไปประสานงานกับทางการจีนต่อไป ทั้งนี้ หากพบว่ามีชาวต่างชาติที่ทำงานในลักษณะน่าสงสัย เช่น มีการแบ่งห้อง มีการใช้อินเทอร์เน็ต หรือมีการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเขาที่ไม่น่าเป็นไปได้ ขอให้แจ้งมายังศูนย์ AOC 1441 เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนการกระทำความผิดและจับกุมต่อไป.