จากกรณี นายโอภาส แก้วปัญญา อายุ 75 ปี โชเฟอร์รถแท็กซี่ ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายก่อนชิงทรัพย์ เอารถแท็กซี่ โตโยต้า สีเขียว-เหลือง ทะเบียน มฎ 7773 กรุงเทพมหานคร ขับหลบหนีไป ภายหลังเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ท้องที่เกิดเหตุ เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 26 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำที่ผ่านมา พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสามารถจับกุมตัว นายอาร์ม อายุ 33 ปี ผู้ก่อเหตุในคดีนี้ไว้ได้แล้วหลังจากพบว่าหลบหนีมาอยู่ บริเวณใต้สะพานข้ามคลองแถวถนนอิสรภาพ ภายในซอยอิสรภาพ 24 แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร โดยใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง และยังติดตามเอารถแท็กซี่กลับคืนมามอบให้ นายโอภาส ผู้เป็นเจ้าของอีกด้วย
ทั้งนี้ นายโอภาส ได้ยกมือไหว้ขอบคุณ พ.ต.อ.นพดล และฝ่ายสืบสวนที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ภายหลังเปิดเผยว่า คนร้ายโบกรถขึ้นมาจากแยกวงเวียนใหญ่ จะไปสมุทรปราการ โดยให้ขับขึ้นทางด่วน ซึ่งฝ่าย นายโอภาส ออกค่าทางด่วนให้ก่อน จนกระทั่งมาถึงซอยในวัดบางด้วนนอก ได้หลอกล่าให้ขับไปในทางเปลี่ยวก่อนจะก่อเหตุชกต่อบทำร้ายร่างกาย ถีบจนตกรถ แล้วยังตามมาชกต่อยซ้ำ จากนั้นก็ชิงเอารถแท็กซี่ขับหลบหนีไปทันที
ขณะที่ฝ่าย นายอาร์ม ให้การรับสารภาพว่าได้ชิงเอารถแท็กซี่ไปจริง ส่วนที่ทำร้ายร่างกายเพราะไม่พอใจที่ชวนลุงคุยเรื่องพระเครื่อง แล้วลุงไม่ยอมสนใจ แถมยังบ่นไปถึงบุพการี จึงเกิดอารมณ์โมโหทำร้ายร่างกายกันขึ้น ส่วนที่หนีไปอยู่ใต้สะพานแถวถนนอิสรภาพ เพราะรู้จักคนเก็บของเก่าแถวนั้นจึงชักชวนกันไปมั่วสุม อีกทั้่งก่อนหน้านี้เพิ่งออกมาจากรพ.จิตเวช หลังก่อเหตุจึงขับรถหนีอกมาเพราะกลัว ก่อนจะเอารถไปจอดทิ้งไว้ แล้วกลับบ้าน พอเช้ามืดจึงนั่งเรือข้ามฝากไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์แล้วนั่งรถเมล์ไปลงที่แยกวงเวียนใหญ่จากนั้นเดินเท้าต่อไปที่ใต้สะพานภายในซอยอิสรภาพ 24 แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร กระทั่งถูกตำรวจตามไปจับกุม
ด้าน พ.ต.อ.นพดล กล่าวว่า คดีนี้ต้องชื่นชมฝ่ายสืบสวนที่ไม่ล่ะความพยาม ไล่กล้องวงจรปิดกระทั่งไปเจอแหล่งกบดาน จากการตรวจสอบพบว่า นายอาร์ม ไม่ได้เตรียมการเอาไว้ก่อน เป็นเหตุเฉพาะหน้า รถที่ขับไปจอดก็ไม่ได้ไกลจากบ้านของผู้ต้องหา เรื่องที่อ้างว่าลุงด่าทอ ฝ่ายลุงไม่ได้ด่าตามที่ถูกกล่าวหา ส่วนเรื่องที่อ้างว่าป่วยจิตเวช ก็ต้องตรวจสอบกันต่อไปว่าป่วยจริงหรือไม่ เบื้องต้นแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ และพบประวัติเคยต้องโทษคดีอาญามาแล้ว 10 ครั้งในความผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติด และอาวุธปืน.
