เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้แจ้งว่ามีชาวต่างชาติปล่อยสุนัขกัดชาวบ้านที่ไปออกกำลังกายบริเวณริมหาดแห่งหนึ่ง ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ นายฐากร (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ผู้เสียหายได้เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับใครหลายๆคนที่อยู่ในพื้นที่ ต.ไม้รูด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด โดยเฉพาะชาวบ้านที่เดินผ่านหรือปั่นจักรยานผ่านบริเวณหน้าหาดสาธารณะแห่งนี้ ให้ระวังสุนัขของรีสอร์ท ที่เจ้าของชอบปล่อยให้ออกมาวิ่งหน้าชายหาดและไล่กัดคน
นายฐากร เล่าอีกว่า ตนเองมักจะออกมาปั่นจักรยานออกกำลังกายตอนเช้าบริเวณชายหาดดังกล่าวแทบทุกวัน แต่มาวันนี้ ขณะที่ตนกำลังปั่นจักรยานอยู่บริเวณหน้าหาด ได้มีฝูงหมาวิ่งออกมาจากรีสอร์ท ประมาณ 5-6 ตัว เพื่อที่จะกัดตนเอง ด้วยความกลัว ทำให้รถจักรยานที่ตนได้ขี่มาล้มลง และลุกขึ้นยืนเพื่อป้องกันตัว ก่อนจะมีชาวต่างชาติ เดินออกมาจากรีสอร์ท และห้ามไม่ให้ตนเองมาบริเวณหน้าหาด ซึ่งได้พูดกันเป็นภาษาอังกฤษ จากนั้นชาวต่างชาติคนดังกล่าวกลับเดินเข้ามาผลักอกของตนถึง 3 ครั้ง ทำให้ตนเองล้มลงได้รับบาดเจ็บบริเวณขา
นายฐากรยัง เล่าต่ออีกว่า หลังจากที่ตนเองได้รับบาดเจ็บ ชาวต่างชาติคนดังกล่าว ให้ตนเองไปเอาจักรยาน แต่ตนเองไม่กล้าเข้าไปเอา เกรงว่าจะถูกทำร้ายอีก เนื่องจากได้มีการพูดข่มขู่ตนเอง หาว่าตนเองมารบกวนบริเวณชายหาด อยากจะมีปัญหาใช่ไหม ผมมีปืน ซึ่งคำขู่ของชาวต่างชาติรายนี้ ทำให้ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจเดินกลับบ้านพักคลองตะเคียน ก่อนที่ชาวต่างชาติคนดังกล่าวจะนำจักรยานของตนไปโยนทิ้งทะเล ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก
ต่อมานายฐากร ได้เดินทางเข้าพบร้อยเวรสอบสวน สภ.ไม้รูด เพื่อแจ้งความเอาผิดกับชาวต่างชาติรายได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวมาทำการสอบสวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ทราบชื่อชาวต่างชาติคนดังกล่าวว่า เป็นชาย สัญชาติเบลเยี่ยม อายุ 52 ปี ซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าของรีสอร์ทดังกล่าว และรับสารภาพว่า ได้ปล่อยหมาออกมาจริง พร้อมกับพูดจาข่มขู่ และทำร้าย นายฐากร ด้วยการผลักอก 3 ครั้งจริง โดยพนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวัน พร้อมดำเนินคดีด้วยการปรับ 1,000 บาท ก่อนปล่อยตัวไป
ขณะที่ นายฐากร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวต่อว่า ตนเองยังติดใจกับเหตุการณ์นี้ และจะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์นี้ไปเกิดขึ้นกับคนอื่นอีก รวมทั้งยังติดใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เชิญคู่กรณีมา แต่ใช้ล่ามแปลภาษาคือให้เมียของคู่กรณีซึ่งเป็นคนไทย เป็นคนเล่าเรื่องราวต่างๆให้พนักงานสอบสวนฟัง โดยไม่ได้ทำการเช็กประวัติชาวต่างชาติรายนี้ ขอดูเพียงแค่พาสปอร์ตเท่านั้น ไม่ได้ขอดูวีซ่า และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดจากบ้านเกิดเหตุ
“ยังคงยืนยันอยากให้ตรวจสอบวีซ่า ซึ่งตนเป็นผู้เสียหาย แต่ไม่ได้ประสงค์ต้องการเรียกร้องค่าเสียหายแต่อย่างใด แค่อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนในพื้นที่ ไม่อยากให้ไปเกิดกับใครอีก” ผู้เสียหายกล่าว
ขณะเดียวกัน จากการพูดคุยกับชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง เล่าว่า ตนเองก็เคยถูกหมากัด เนื่องจากได้มีการปล่อยหมาออกมาตอนที่ตนเองไปเดินเก็บของเก่าบริเวณหน้ารีสอร์ท จนได้รับบาดเจ็บบริเวณต้นขา ซึ่งได้รับเงินเยียวยามา 200 บาท จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ชาวบ้านไม่กล้าเดินผ่านชายหาด เพราะกลัวหมาวิ่งมากัด ทั้งๆที่เป็นหาดสาธารณะ