เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือก สว. ว่าจากการที่ติดตาม พบว่า สว. ส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับพรรคการเมืองบางกลุ่ม ทำให้ สว.หลายคนที่เข้ามาถูกตั้งคำถามว่าคุณสมบัติเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการแบ่งกลุ่มอาชีพหรือไม่ อย่างไรก็ดีด้วยกระบวนการของ สว.ที่ไม่มีเงื่อนไขด้านเวลาว่าต้องรับรองกี่เปอร์เซ็นต์ หรือใช้เวลาตรวจสอบเท่าไรถึงจะเปิดประชุมได้ ตนมองว่า กกต.ควรรับรองไปก่อนแล้วสอยทีหลัง เพราะเข้าใจว่าหากต้องการให้ตรวจสอบประเด็นปัญหาจนเป็นข้อยุติอาจต้องใช้เวลานาน

เมื่อถามย้ำว่า หากให้รับรองไปก่อนสอยทีหลังจะเป็นบรรทัดฐานที่ทำให้ระบบที่ไม่ดีเข้าสู่สภาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า  ตนไม่ได้คาดหวังหรือเรียกร้อง แต่ด้วยเงื่อนไขด้านระยะเวลาที่ต้องใช้ตรวจสอบ ที่นำไปสู่การตัดสิทธิหรือไม่รับรองผลต้องใช้เวลา ดังนั้นการรับรองไปก่อน สอยทีหลังมีความเป็นไปได้มากกว่า

“หากต้องตรวจสอบให้สมบูรณ์แล้วรับรองไปทำหน้าที่ ต้องใช้ระยะเวลา เพราะมีกรณีของ สส.ที่ถูกร้องทุจริตเลือกตั้ง แต่ผ่านไปปีกว่าแล้ว ไม่มีใครเลือกตั้งซ่อมจริง และมีแค่ไม่กี่รายอยู่ในกระบวนการของศาล ดังนั้นเวลาตรวจสอบจึงทำได้ไม่เร็ว ทั้งนี้มีหลายเรื่องที่ผมสงสัยว่า กกต. ผ่านตั้งแต่รับสมัครได้อย่างไร เช่น ผู้สมัครไม่ใช่ผู้สมัครตามกลุ่มวิชาชีพจริง” นายชัยธวัช กล่าว 

เมื่อถามว่า หากให้ กกต. สอยทีหลัง ที่ผ่านมาไม่เคยเกิดขึ้นจริง นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่เช่นนั้น สว.ปัจจุบันต้องทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ ทั้งนี้ผมไม่ได้เสนอหรือต้องการให้เป็นแบบนั้น แต่มองด้วยระบบ เพราะ สว.ไม่มีเงื่อนไขด้านเวลา

เมื่อถามว่า จะเป็นการส่งเสริมระบบที่บิดเบี้ยวให้เข้าสู่สภาหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้พูดยาก เพราะการเลือกนี้ เป็นปลายทาง แต่ต้นทางคือรัฐธรรมนูญ 2560 ที่สามารถคาดเดาว่าผลเป็นแบบนี้ หากบอกว่าการยอมรับแบบนี้ จะสร้างบรรทัดฐานใหม่หรือไม่ ต้องบอกว่าต้นทางคือรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือก สว. อย่างไรก็ดี ตนขอให้คนที่ไม่พอใจหรือผิดหวังกับหน้าตา สว.ใหม่ ไม่อยากให้คิดแค่ประเด็นเฉพาะหน้า แต่ควรมองอนาคตว่าควรมี สว.หรือไม่ เพื่ออะไร เพื่อนำไปสู่การออกแบบในอนาคต

“ผมมองว่าประเด็นที่ กกต. ต้องทำตอนนี้ คือ  สืบสวน สอบสวน ว่ามีการใช้เงินให้ได้มาของ สว. จริงหรือไม่ โดย กกต. ต้องดำเนินการ และหาก กกต.ไม่ทำ ทั้งที่ผู้สมัครพูดตรงกันว่ามีการให้เงินเพื่อเข้ากลุ่ม กกต. อาจมีปัญหาต่อการได้รับความไว้วางใจได้” นายชัยธวัช กล่าว

เมื่อถามว่า มีการประเมินว่า มี สว.สายประชาธิปไตยได้รับเลือก 20% นายชัยธวัช ย้อนถามกลับว่า “เยอะขนาดนั้นเลยเหรอ ผมยังไม่ได้เช็ก ทั้งนี้ขอแสดงความยินดีที่สามารถหลุดรอดผ่านมาได้โดยไม่ใช้อามิสสินจ้าง” เมื่อถามย้ำว่า พรรคก้าวไกลวางแนวทางต่อการทำงานร่วมกับ สว.ใหม่อย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันเรื่องดังกล่าว เพราะเพิ่งทราบผล ทั้งนี้ตนไม่ได้ดูทั้งหมดว่าใครบ้าง แต่เชื่อไม่กระทบมาก.