จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “Green Season นี้ เที่ยวใต้…เที่ยวไหนดี?” ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคภาคใต้
ชวนคนไทยเที่ยว 14 จังหวัดภาคใต้ ด้วยคอนเซปต์ 5 Must Do ประกอบด้วย Must Eat อิ่มอร่อยกับอาหารถิ่น Must See ละลานตาวัฒนธรรม Must Seek แสวงหา Unseen ถิ่นน่าเที่ยว Must Buy หัตถกรรมล้ำค่า น่าซื้อฝาก และ Must Beat สุดยอดกีฬาท้าทายกายใจ

ชวนให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางกระจายไปทั้งเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว โดยปักหมุดกิจกรรมท่องเที่ยวเป็น “ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย” ไล่เรียงจากชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่งดงามของท้องทะเลไทย สนุกสนานกับกิจกรรมดำน้ำตื้น ดำน้ำลึกที่เกาะเต่า พิชิตจุดชมวิวหมู่เกาะอ่างทอง พักผ่อนตามชายหาดที่เกาะสมุย เกาะพะงัน หาดขนอม เที่ยวเกาะหญ้าชมควายน้ำทะเลน้อย พัทลุง สายศรัทธาเชิญขอพรตามเส้นทาง 4 พระธาตุแดนใต้ และเส้นทางตามรอยหลวงปู่ทวด สายกีฬาต้องไม่พลาดงาน “Samui Trail” ที่เกาะสมุย สายอาร์ตต้องไปงาน “Creative Nakhon” ที่นครศรีธรรมราช กลุ่ม Fruit Lovers ชมและชิม “เทศกาลเงาะโรงเรียนนาสาร” สุราษฎร์ธานี และ “งานวันทุเรียนชุมพร” ส่วนผู้ที่ชื่นชอบงานเฟสติวัล เตรียมพบสีสันความสนุกในงาน “Southern Bliss Fest” ที่ชุมพรและนครศรีธรรมราช ปลายเดือนสิงหาคมนี้

“ภาคใต้ฝั่งอันดามัน” ช่วงนี้คลื่นลมดี ตอบโจทย์กลุ่มที่ชื่นชอบสายกิจกรรม “Surf” และ “SUP board” ที่ภูเก็ต เขาหลัก พังงา และสตูล ส่วนนักท่องเที่ยวที่หลงใหลความสวยงามของหมู่เกาะและภูเขาหินปูน เช่น เกาะพีพี อ่าวพังงา ยังคงเดินทางไปท่องเที่ยวได้ แค่เพียงตรวจสอบสภาพอากาศก่อนวันเดินทาง สายสุขภาพไปแช่น้ำแร่ระนอง สัมผัสมหัศจรรย์ธารน้ำตกร้อนและน้ำพุร้อนเค็มหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่กระบี่ เส้นทางท่องเที่ยว Low Carbon ที่พังงา เขาจมป่า บริเวณชุมชนบ้านน้ำราบ จังหวัดตรัง ที่เป็นพื้นที่ป่าชายเลนขนาดใหญ่ถึง 3,200 ไร่

เส้นทางท่องเที่ยวชุมชน อาทิ บวชป่าต้นน้ำ ชุมชนบ้านเขาหลักกับกิจกรรม “ยิ่งเที่ยว ยิ่ง Fit ยิ่งเที่ยว ยิ่ง Fin ยิ่งเที่ยว ยิ่ง Fun” ประเพณีที่มาจากความเชื่อความศรัทธาและกุศโลบายของคนในชุมชนที่สร้างขึ้นมาเพื่อยับยั้งการตัดไม้ทำลายป่า รักษาป่าต้นน้ำและต่ออายุให้กับต้นไม้ที่ได้ทำการบวชป่า มีทั้งบวชป่าสายลุย เดินเท้าและนั่งมอเตอร์ไซค์วิบากของชาวบ้านที่มีความชำนาญในการขึ้นเขา และบวชป่าสายชิล เดินเท้าบวชป่าใกล้ ๆ หมู่บ้าน อาทิ ใกล้น้ำตกเขาหลัก

เรียนรู้วิถีประมงที่ชุมชนมดตะนอย จังหวัดตรัง หมู่บ้านปลอดโฟม สู่รางวัล “ชุมชนต้นแบบจัดการขยะ” ปี 2560 จากกรมอนามัย ฟังเรื่องเล่าการอนุรักษ์ของชุมชนโดยปราชญ์ชุมชน ร่วมอนุบาลหญ้าทะเล เพาะพันธุ์ต้นโกงกาง โดยชุมชน เยี่ยมชมธนาคารปูม้า แม่พันธุ์จากปูติดอวน เรียนรู้วิถีประมง แกะปูแกะปลา ทำอวนปูพื้นบ้าน เที่ยวชมสันหลังมังกรเผือก ลิ้มรสอาหารทะเลสด ๆ หน้าบ้าน หมึก ปู ปลา สู่เมนูอาหารถิ่นชุมชน

สายกีฬาขอแนะนำ งาน “Phang Nga SUP Fest” งาน “Trang Marathon” และงาน “เดิน-วิ่งท้าฝน เมืองฝน 8” ที่ระนอง และยังมีงานระดับ Big Event เตรียมปักหมุดที่ภูเก็ต ได้แก่ งาน VIJIT 5 ภาค งาน Amazing Thailand Food Festival และงาน Amazing Beach Life Festival กิจกรรมการแสดงดนตรีจากศิลปินที่มีชื่อเสียงและศิลปินในพื้นที่ พร้อมกิจกรรมร้อยลูกปัด เพนต์หน้า เซิร์ฟบอร์ด มีการออกร้านจำหน่ายอาหารและมีกิจกรรม Big Clening ซึ่งงานนี้ยังมีกำหนดจัดที่พังงาและสงขลาด้วย

ลงไปที่ “5 จังหวัดชายแดนใต้” สายฝนที่โปรยปรายฟื้นคืนสีเขียวให้ผืนป่า เป็นสนามธรรมชาติรองรับสายกีฬางาน “Yala Marathon” ที่ยะลา งาน “Bala Trail” ที่นราธิวาส งาน “Songkhla International Marathon” และ “Zoo Trail Songkhla” ที่สงขลา งาน “Andaman International Trail Running” ที่สตูล ส่วนสายกิจกรรมสร้างสรรค์ แนะนำงาน “ฉ่ำเฟส” และ “Pattani Decoded” ที่ปัตตานี งาน “โละ Market” ที่นราธิวาส และพลาดไม่ได้กับการท่องเที่ยวตามรอยพหุวัฒนธรรมที่มีไฮไลต์สำคัญ ได้แก่ สักการะหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ ชมความงามของมัสยิดกลางปัตตานี ขอพรศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ชมย่านเมืองเก่าสงขลา เดินป่าส่องนกเงือกที่ป่าฮาลา-บาลา และชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

ทั้งยังสามารถเดินทางเชื่อมโยงเข้าสู่ประเทศมาเลเซียทางด่านชายแดนหลัก ได้แก่ ด่านสะเดา สงขลา ด่านวังประจัน สตูล ด่านเบตง ยะลา ได้ด้วย

นางสาววัจนันท์ ศิลปวรณ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ กล่าวว่า ภูมิภาคภาคใต้ เน้นสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวผ่านแนวทาง 5 Must Do รวมถึงการสร้างความเชื่อมโยงในการเดินทางระหว่างเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว เพื่อตอบรับพันธกิจทางการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล โดยกำหนดดำเนินการสร้างการรับรู้ความหลากหลายของสินค้าบริการทางการท่องเที่ยวที่เป็นจุดเด่นของ 14 จังหวัด และส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้าสู่พื้นที่ เพื่อให้เกิดรายได้และประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป.