สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ว่า นายโยอาฟ กัลลันต์ รมว.กลาโหมอิสราเอล กล่าวระหว่างปฏิบัติภารกิจที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเยือนสหรัฐ ยืนยันว่า อิสราเอลไม่มีความคิดที่จะทำสงครามกับเลบานอน เนื่องจากไม่เป็นผลดีกับอิสราเอลเช่นกัน แม้อิสราเอลมีศักยภาพเพียงพอ ที่จะให้เลบานอน “กลับไปสู่ยุคหิน” ก็ตาม
ขณะเดียวกัน กัลลันต์ยืนยันว่า อิสราเอล “เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ทุกรูปแบบ” ซึ่งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ตระหนักถึงแนวโน้มของสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเป็นอย่างดี ว่าเลบานอนซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เองนั้น จะได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วงเพียงใด หากสงครามเกิดขึ้นจริง
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/06/AFP__20240625__2158627624__v2__HighRes__DefenseSecretaryAustinHostsIsraeliDefenseMin-1280x853.jpg)
ทั้งนี้ นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ พบหารือกับนายโยอาฟ กัลลันต์ รมว.กลาโหมอิสราเอล ที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวันจันทร์ ว่ารัฐบาลวอชิงตันขอให้อิสราเอล “ใช้หลักการทางการทูต” เพื่อคลายความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส และระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ด้วย
Israeli Defense Minister Yoav Gallant says during a visit to #Washington that his country did not want war in #Lebanon, but could send it back to the “Stone Age” if diplomacy failed.#Israel https://t.co/TV25hm7ihR
— Al Arabiya English (@AlArabiya_Eng) June 27, 2024
ด้านรัฐมนตรีของอิสราเอลยืนยันว่า “พร้อมใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด หากวิธีการทูตไม่ได้ผล” และเน้นย้ำว่า เป้าหมายสูงสุดของอิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส คือการช่วยเหลือตัวประกันให้ได้ทุกคน และ “การขุดรากถอนโคน” อีกฝ่าย พร้อมทั้งยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับอิสราเอล “สำคัญที่สุด” ในการเป็นพันธมิตรความมั่นคง แม้รัฐบาลวอชิงตัน ระงับการสนับสนุนอาวุธบางประเภทให้แก่อิสราเอล เพื่อกดดันให้มีการเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในฉนวนกาซา.
เครดิตภาพ : AFP