รวมพลคนจากหลากหลายภาคส่วน ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมใน 4 ด้าน ดังนี้ 1. ฟื้นนํ้า สร้างป่า 2. พัฒนาอาชีพมั่นคง 3. ส่งเสริมสุขภาวะ และ 4. สนับสนุนสังคมคาร์บอนตํ่า

“ธุรกิจต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก สังคม และยุคสมัย เอสซีจีจึงยกระดับการขับเคลื่อนความยั่งยืนสู่ Inclusive Society ร่วมกับพนักงาน เครือข่าย พันธมิตร และชุมชน สร้างการเปลี่ยนแปลง แก้ไขปัญหาอย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สังคม สิ่งแวดล้อมยั่งยืน และส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้คนรุ่นต่อไป ด้วยการผลักดันสังคมเติบโตไปด้วยกัน” “ชนะ ภูมี” ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-การบริหารความยั่งยืน เอสซีจี กล่าว

นอกจากนี้ ภายในงานดังกล่าวยังมีการเปิดตัวหนังสือ “เหตุผลที่เรามารวมกัน” ซึ่งเป็นการรวบรวมเรื่องราวการขับเคลื่อนความยั่งยืนของเอสซีจี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังรวมพลคนจากหลากหลายภาคส่วน ที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมในด้านต่าง ๆ โดยมี 4 ตัวแทนผู้นำชุมชน มาร่วมแบ่งปันแนวคิดและประสบการณ์ พร้อมส่งต่อพลังบวก ตั้งแต่ “วันดี อินทรพรม” กำนัน ต.แกลง จ.ระยอง ผู้เปลี่ยนความแห้งแล้งของเขายายดา ให้เป็นป่าต้นนํ้าที่หล่อเลี้ยงชุมชนมาบจันทร์ ด้วยการ “สร้างฝายชะลอนํ้า” จากองค์ความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมกับเอสซีจีซี

ด้าน “อำพร วงค์ษา” ประธานศูนย์หัตถกรรมบ้านงานฝีมือบ้านผาหนาม จ.ลำพูน หนึ่งในสมาชิก “โครงการพลังชุมชน” ผู้เดินหน้าสร้างอาชีพให้คนในชุมชน เช่น ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ว่างงาน และผู้หญิงที่ขาดโอกาสในการทำงาน “จิตรา ป้านวัน” ประธานชุมชนวังขรีวิถียั่งยืน ผู้ก่อตั้ง “กลุ่มเยาวชนยิ้มแฉ่งให้ด้วยใจ” เพื่อแก้ปัญหาขยะ สร้างความร่วมมือภายในชุมชน เชื่อมเยาวชนและผู้สูงวัยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน พัฒนาชุมชนให้สะอาดน่าอยู่ พร้อมมุ่งสู่การเป็นชุมชนคาร์บอนตํ่า “นิโลบล ลิจุติภูมิ” นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานบริการด้านปฐมภูมิและองค์รวม โรงพยาบาลท่าวุ้ง จ.ลพบุรี บุคคลสำคัญในการขับเคลื่อนให้ผู้ป่วย ได้รับการรักษาที่ดี แม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ช่วยลดความเหลื่อมลํ้าด้านสาธารณสุข ด้วยการใช้เทคโนโลยีแพทย์ดิจิทัลจากโครงการ “แพทย์ดิจิทัล ดูแลผู้ป่วยทางไกล”

“โครงการต่าง ๆ ที่นำเสนอภายในงานนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ทุกคนเติบโตไปด้วยกัน ที่เอสซีจีร่วมมือกับพนักงาน เครือข่าย พันธมิตร และชุมชน มุ่งมั่นมาตลอดการดำเนินธุรกิจกว่า 111 ปี โดยเอสซีจียังคงเดินหน้ามุ่งสู่เป้าหมาย ลดความเหลื่อมลํ้าในสังคม ทั้งด้านการศึกษา อาชีพ และสุขภาวะ ให้ได้ 50,000 คน ภายในปี 2573” ชนะ กล่าวทิ้งท้าย.