เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยภายหลังการประชุมคุรุสภา ที่มี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. … เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) และกลุ่มอื่นๆ ที่มีความรู้ความสามารถได้มีโอกาสในวิชาชีพ นอกจากนี้ในการเห็นชอบร่างข้อบังคับของคุรุสภาฉบับดังกล่าว ยังมีเรื่องมาตรฐานตำแหน่งของผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ ซึ่งคุรุสภาได้เปิดโอกาสให้แก่บุคคลที่อยู่ในแวดวงสถาบันอุดมศึกษาที่มีประสบการณ์ความรู้หรือนักวิชาการได้มีโอกาสได้เข้ามาสมัครเป็นศึกษานิเทศก์ โดยหลักเกณฑ์การคัดเลือกศึกษานิเทศก์นั้นคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จะไปกำหนดหลักเกณฑ์ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ให้สอดคล้องกับกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป

เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการคุรุสภา เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู (ฉบับที่ 2) พ.ศ. … เพื่อให้การดำเนินการจัดทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครูด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพตามมาตรฐานวิชาชีพครู สอดคล้องกับการออกข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 ลดภาระของผู้เข้ารับการทดสอบและมีความรวดเร็วในการประกาศผลการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู โดยการเห็นชอบร่างดังกล่าว จะเป็นการปลดล็อคจากเดิมผู้เข้ามาทอดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูจะเก็บผลทดสอบไว้ได้ 3 ปี แต่เปลี่ยนเป็นเก็บผลทดสอบใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ตลอดไป อีกทั้งผู้ที่ได้รับอนุญาตประกอบวิชาชีพครูใบแรกไปแล้วยังสามารถมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูใบที่สองได้ในกลุ่มสาขาวิชาชีพอื่น เช่น เมื่อรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูกลุ่มวิชาปฐมวัยไปแล้ว ก็สามารถรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูกลุ่มวิชาภาษาอังกฤษได้ เป็นต้น ดังนั้นครู 1 คน จะได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูมากกว่า 1 ใบ ทั้งใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูชั้นต้นและชั้นสูง

ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ รมว.ศึกษาธิการ และคุรุสภา ที่เปิดช่องให้แก่กลุ่มบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค (2) มีความก้าวหน้าในวิชาชีพสามารถขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจากคุรุสภา เพื่อไปสอบในตำแหน่งต่างๆ ได้ ขณะเดียวกัน เรื่องครูสอนดนตรีโรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่งใน กทม. ทำอนาจารนักเรียนนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และคุรุสภา ร่วมกันทำงานเชิงรุกและป้องกัน เพื่อให้ไม่ให้ครูคนดังกล่าว ได้ไปปฏิบัติการสอน หรือไปทำกับเด็กในโรงเรียนอื่นๆ อีกต่อไป