สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ว่า ประธานาธิบดีรานิล วิกรมสิงเห ผู้นำศรีลังกา กล่าวว่า รัฐบาลลงนามร่วมกับคณะกรรมการเจ้าหนี้ระดับรัฐ (โอซีซี) ที่สมาชิกรวมถึง ญี่ปุ่น อินเดีย และฝรั่งเศส เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ราว 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 214,272.30 ล้านบาท)


ขณะเดียวกัน ศรีลังกาลงนามร่วมกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน (ไชนา เอ็กซิมแบงก์) เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ราว 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 155,162.70 ล้านบาท)


ทั้งนี้ ข้อตกลงทั้งสองฉบับ ซึ่งมีการลงนามที่กรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส และที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ตามลำดับ เห็นชอบการเลื่อนขำระหนี้ให้แก่ศรีลังกา จนถึงปี 2571 แม้ยังไม่มีฝ่ายใดออกมาให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่การปรับโครงสร้างหนี้ถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญ ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กำหนดเพื่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้แก่ศรีลังกาในอนาคต


อนึ่ง ศรีลังกาผิดนัดชำระหนี้เมื่อเดือน เม.ย. 2565 ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ และประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา ผู้นำประเทศในเวลานั้น ต้องลาออกจากตำแหน่ง


ปัจจุบัน มูลค่าหนี้ต่างประเทศของศรีลังกาอยู่ที่ราว 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.36 ล้านล้านบาท) จากจำนวนดังกล่าวราว 28.5% เป็นการกู้ยืมแบบรัฐต่อรัฐ โดยจีนถือเป็นประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด ตามด้วยญี่ปุ่น และอินเดีย.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES