ถุงใต้ตา (Eye bags) หรือการที่ไขมันใต้ตามีลักษณะเป็นถุงบวมออกมาบริเวณใต้ขอบตาล่าง เป็นปัญหาหลักที่ทำให้ใครหลายคนหมดความมั่นใจในใบหน้าของตนเอง เพราะเมื่อมีถุงใต้ตานั้น ก็มักจะทำให้ผิวใต้ตาดูโทรม เหมือนคนนอนไม่พอตลอดเวลา แถมใบหน้ายังดูมีอายุมากกว่าวัยด้วย โดยปัจจุบันมีเทคนิคทางการแพทย์และความงามสุดฮิตที่ช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาให้มีขนาดลดลง หรือหายไปได้อยู่ 2 วิธีหลักๆ คือ ‘การทำเทอร์มาจ’ และ ‘การผ่าตัดถุงใต้ตา’ ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่อยากแก้ปัญหาถุงใต้ตา แต่ยังไม่ชัวร์ว่าควรเลือกวิธีไหนดีถึงจะเหมาะกับตนเองมากที่สุด ในบทความนี้ชวนมาดูข้อดี จุดเด่น และความเหมาะสมของแต่ละวิธีกัน!


การแก้ปัญหาถุงใต้ตาด้วยเทอร์มาจ

การทำเทอร์มาจ (Thermage) เป็นหัตถการที่ใช้เทคนิคการยิงคลื่น RF (radiofrequency) ที่หัวเลเซอร์มีขนาดเล็กมาก ลงไปในชั้นผิวรอบดวงตาในระดับความลึกที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้เกิดการหดตัวของถุงไขมันใต้ตา ถุงใต้ตาจึงดูมีขนาดลดลง ผิวบริเวณรอบดวงตาดูตื้นและเรียบมากขึ้น นอกจากนี้การทำเทอร์มาจที่ส่งพลังงานคลื่น RF ลงไปชั้นใต้ผิว ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังกระชับได้เป็นอย่างดี กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง หากใครมีปัญหารอยย่นบริเวณหน้าผาก ที่เกิดการยกของคิ้ว การทำเทอร์มาจก็จะช่วยให้ผิวบริเวณที่มีรอยย่นเรียบตึงมากขึ้น รวมไปถึงผิวหนังเปลือกตา หากมีชั้นตาหลบใน ตาดูปรือ ก็จะทำให้เห็นตาสองชั้นเด่นชัดมากขึ้น กล้ามเนื้อตาออกแรงได้ดีขึ้น และตาดูกลมโตเท่ากันมากขึ้นด้วย


การทำเทอร์มาจเหมาะกับใคร 

การทำเทอร์มาจเป็นการยิงคลื่น RF ลงไปในชั้นผิวรอบดวงตา เพื่อกระตุ้นให้ถุงไขมันใต้ตาเกิดการหดตัว ผิวรอบๆ ดวงตากระชับ เต่งตึงมากขึ้น จึงเป็นวิธีที่เหมาะกับกลุ่มที่มีอาหารหนังตาบนหย่อน มีถุงใต้ตาขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มากจนเกินไป กลุ่มอายุน้อยที่อยากชะลอการเสื่อมของผิวหนังรอบดวงตา และคอลลาเจน  อยากลดถุงใต้ตาแบบเร่งด่วน และยังไม่ต้องการทำการผ่าตัด


การทำเทอร์มาจมีจุดเด่นอย่างไร

สำหรับจุดเด่นของการทำเทอร์มาจเพื่อแก้ปัญหาถุงใต้ตา สามารถให้ผลลัพธ์ชัดเจน ผิวรอบดวงตาดูอ่อนเยาว์ สดใสมากขึ้น ดูไม่เหนื่อยล้า ผิวรอบตาดูยกกระชับ เรียบเนียนยิ่งขึ้น รอยย่นใต้ตา และริ้วรอยแลดูลดลง ที่สำคัญคือเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน โดยใช้เวลาทำประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมงเท่านั้น และภายหลังทำจะไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ อาจจะมีผิวอมชมได้สักประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เมกอัป และทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ตามปกติเลย ทั้งนี้ อย่างที่บอกไปว่าการทำเทอร์มาจเหมาะกับผู้ที่มีถุงใต้ตาขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มากจนเกินไป จึงได้ผลลัพธ์ดีในกลุ่มอายุน้อยที่อยากชะลอการเสื่อมของผิวหนังรอบดวงตา ดังนั้นหากมีถุงใต้ตาขนาดใหญ่และมีความหย่อนคล้อยมาก และเป็นปัญหาที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น พันธุกรรม อาจต้องรักษาด้วยวิธีอื่นๆ อย่างการผ่าตัดถุงใต้ตา เป็นต้น


การแก้ปัญหาถุงใต้ตาด้วยการผ่าตัดถุงใต้ตา

อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ ‘การผ่าตัดถุงใต้ตา’ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้เทคนิคผ่าตัดเลาะผิวหนังส่วนเกินชั้นนอก รวมทั้งไขมันสะสมบริเวณเปลือกตาล่างออกในปริมาณที่พอเหมาะ และซ่อนแผลผ่าตัดไว้ตรงใต้แนวขนตาพอดี เพื่อไม่ให้เห็นรอยแผลเป็น ช่วยผิวใต้ตาดูเรียบกระชับขึ้น นอกจากนี้ในบางเคสนิยมทำร่วมกับการผ่าตัดถุงใต้ตกแต่งหนังตาส่วนเกินด้านบนด้วย เพราะบางรายอาจเผชิญกับปัญหาหนังตาตกด้วย หากทำพร้อมกันแล้วจะช่วยให้ได้ผิวรอบดวงตาที่ตึงกระชับ ตาดูกลมโต สดใส บาลานซ์กันทั้งเปลือกตาบนและเปลือกตาล่างนั่นเอง


การผ่าตัดถุงใต้ตาเหมาะกับใคร

การผ่าตัดถุงใต้ตาเป็นวิธีที่ช่วยแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้ค่อนข้างครอบคลุม หากเทียบกับวิธีอื่นๆ เพราะเป็นการผ่าตัดที่กำจัดไขมันออกโดยเฉพาะ พร้อมเพิ่มความตึงกระชับได้ด้วยการเย็บแผลที่ใช้เทคนิคซ่อนแผล จึงเหมาะกับทั้งคนที่มีถุงไขมันใต้ตาและผิวหนังส่วนเกิน ตั้งแต่ระดับเล็กน้อย ถึงปริมาณไขมันมาก เหมาะกับคนที่มีผิวใต้ตาหย่อนคล้อยตามช่วงอายุที่มากขึ้น หรือมีถุงใต้ตาจากพันธุกรรมด้วยเช่นกัน


การทำผ่าตัดถุงใต้ตามีจุดเด่นอย่างไร

จุดเด่นของการผ่าตัดถุงใต้ตา คือแพทย์มากประสบการณ์จะสามารถออกแบบวิเคราะห์ปัญหาให้เหมาะกับปัญหาถุงใต้ตาของแต่ละคนได้แบบ Case By Case ได้แบบละเอียดและลึกซึ้งถึงโครงสร้างรอบดวงตา สามารถแก้ปัญหาผิวรอบดวงตาได้ครอบคลุมและตรงจุด พร้อมการดีไซน์ลักษณะดวงตาที่สวยงาม ได้สัดส่วน และมีความเป็นธรรมชาติสูง ภายหลังจากทำ อาการบวมช้ำน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน นอกจากนี้โอกาสที่ไขมันส่วนเกินใต้ตากลับมายังมีน้อยมาก จึงช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาเกือบถาวรเลย ทั้งนี้การผ่าตัดถุงใต้ตาต้องอาศัยฝีมือและเทคนิคที่แม่นยำ ควรเลือกผ่าตัดถุงใต้ตากับคลินิกที่มีมาตรฐาน มีใบรับรอง และเลือกทำกับแพทย์มากประสบการณ์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ชัดเจนนั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาถุงใต้ตาด้วยการทำเทอร์มาจ VS ผ่าตัดถุงใต้ตา หวังว่าจะช่วยให้คนที่มีถุงใต้ตาสามารถเลือกวิธีที่ใช่สำหรับตัวเองได้ง่ายมากขึ้น โดยทั้งสองวิธีนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน สำหรับการทำเทอร์มาจนั้นจะเหมาะกับกลุ่มที่มีถุงใต้ตาขนาดเล็ก ไม่มีปัญหารอบดวงตาอื่นๆ มากนัก ให้ผลลัพธ์หลังทำที่ชัดเจนและใช้เวลาทำรวดเร็ว ช่วยชะลอการเสื่อมอายุของผิวหนังรอบดวงตาได้ดี ส่วนการผ่าตัดถุงใต้ตาจะเป็นการใช้เทคนิคผ่าตัดเลาะไขมันส่วนเกินแบบล้ำลึก ตรงจุด จึงเหมาะกับกลุ่มที่มีปัญหาถุงใต้ตาหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะกลุ่มถุงใต้ตาขนาดใหญ่ มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากสนใจทำ ควรเลือกผ่าตัดถุงใต้ตากับคลินิกที่มีมาตรฐาน แพทย์มีความรู้เฉพาะด้านและมากประสบการณ์เท่านั้น เพื่อควาปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ไม่ว่าใครก็ต้องการมีดวงตาที่สวยสดใส ผิวรอบดวงตาตึงกระชับ เพื่อเสริมความมั่นใจให้เต็มที่ สำหรับคนไหนที่กำลังประสบกับปัญหาถุงใต้ตา กำลังมองหาคลินิกรักษาและแก้ไขปัญหาถุงใต้ตา ที่ Lovely Eye & Skin Clinic เราพร้อมเป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษาแก้ปัญหาผิวรอบดวงตา เรามีทีมแพทย์มากประสบการณ์และความชำนาญในการรักษาด้วยเทคนิคเฉพาะทางโดยตรง ทั้งการทำ Thermage Eye Reborn หรือการผ่าตัดด้วย New Lovely Microlaser  เทคโนโลยีการผ่าตัดเอกสิทธิ์เฉพาะ Lovely Eye & Skin Clinic ที่มีความแม่นยำสูง ไม่ส่งผลกระทบต่อเนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียง เราพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลการรักษาเกี่ยวกับปัญหารอบดวงของคุณ ฟื้นคืนผิวรอบดวงตาให้กลับมาอ่อนเยาว์ มีดวงตาสดใสคืนสู่ใบหน้าคุณอีกครั้ง

ติดต่อและสอบถาม Lovely Eye & Skin Clinic
Tel. 02 382 0045, 06 1405 0044
Line: @lovelyeye
Facebook: Lovely Eye & Skin Clinic
Instagram: @lovelyeyeandskin_by_drroungkaw
YouTube: Lovely Eye & Skin Clinic