เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 26 มิ.ย. ที่อิมแพ็ค ฟอรั่ม อาคาร 4 เมืองทองธานี นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ แถลงข่าวภายหลังจากการเลือก สว.รอบแรก แล้วเสร็จ ว่า นับตั้งแต่ เปิดให้ผู้สมัคร สว.รายงานตัวและเริ่มกระบวนการเลือก สว.รอบแรก เลือกผู้สมัครในกลุ่มตนเอง ใน 20 กลุ่ม ซึ่งล่าช้าไปจากที่คาดการณ์เอาไว้มาก เลยเวลารับประทานอาหารกลางวันมาพอสมควร แต่ทางสำนักงาน กกต.ไม่ได้จัดเตรียมให้ในรอบเช้า

สำหรับบรรยากาศการเลือกโดยทั่วไปในสถานที่เลือก ขอบคุณผู้มีสิทธิเลือกที่ให้ความร่วมมือด้วยดี ทุกคนอยู่ประจำกลุ่ม มีผู้สังเกตการณ์จากกลุ่มต่างๆ รวมถึงทูตานุทูต  เพื่อตรวจสอบดูแลว่า เจ้าหน้าที่มีการปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ น่าจะมีผู้สมัครด้วยกันเองก็ถือว่าเป็นผู้สังเกต เพื่อรักษาสิทธิของตัวเอง ตลอดจนมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดในทุกกลุ่มเพื่อบันทึกเหตุการณ์ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง โดยพบมีผู้สมัครทักท้วงเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นการทักท้วงหลังจากทราบคะแนนแล้ว ในขณะที่การทักท้วงจะอนุญาตให้ดำเนินการระหว่างที่มีการขาน ขีดคะแนน อย่างไรก็ตาม สำนักงานฯ จะให้ใบทักท้วง หากไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยอาจจะไปใช้สิทธิตามช่องทางอื่นหลังจากวันนี้ได้ โดยมีกล้องที่บันทึกไว้ทั้งภาพและเสียงเพื่อเป็นหลักฐาน เพื่อประโยชน์ของผู้สมัครเองและของ กกต.เอง

“ในการเลือก สว. รอบแรกเสร็จประมาณ 14.00 น. แต่ใช้เวลาในการรวบรวมเสร็จเมื่อสักครู่ (16.00 น.) ซึ่งอาจจะใช้เวลานาน เนื่องจากสถานที่เลือกติดกันจึงต้องขานคะแนนให้ช้า และให้เกิดความชัดเจน และด้วยปริมาณการอ่านเยอะเพราะผู้มีสิทธิเลือก เลือกได้ไม่เกิน 10 คน 1 คน 1 ใบ จึงอ่าน 10 ครั้ง ขีด 10 ครั้ง ใช้เวลาพอสมควรทำให้เลยเวลา จากที่ประมาณการไว้พอสมควร” นายแสวง กล่าว และว่า สำหรับการเลือกรอบสองนั้น ด้วยปริมาณคนลดลง จำนวนสิทธิในการลงคะแนนเสียงน้อยลง ก็คิดว่าอาจจะเสร็จประมาณ 20.00 น. แต่ละกลุ่มลงคะแนนแค่ 40 คน 1 คนมี 5 คะแนน เวลาอ่านคะแนนจะทำทีละกลุ่ม ซึ่งต้องใช้เวลาในส่วนนี้ 

เมื่อถามว่า การติดวงจรปิด แต่ถ่ายทอดสลับไปมา ไม่มีเสียง ทำให้ขาดการต่อเนื่อง จะปรับอย่างไรหรือไม่ อีกทั้งบอร์ดลงคะแนนที่ไม่ให้สื่อไปดูทำให้เกิดความล่าช้าในกระบวนการรายงานผล จะปรับเปลี่ยนหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า การปรากฏรายชื่อผู้ผ่านการเลือกนั้น จะประกาศเป็นการทั่วไป ติดในสถานที่นับคะแนน ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิด เราทำไว้เพื่อคุ้มครองผู้สมัคร และเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝั่ง เมื่อมีการใช้กระบวนการทางกฎหมาย ทางศาล อาจจะมีการไต่สวน และเรียกกล้องวงจรปิด ซึ่งมีทั้งภาพ และเสียงอยู่แล้ว ถือเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เราทำมาตลอด