ถือว่าเป็นเรื่องราวอันน่าเศร้าทั้งคนในวงการบันเทิงและแฟนคลับ สำหรับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ “แม่แอ๊ด โฉมฉาย” นักแสดงอาวุโส ที่ได้จากไปในวันที่ 20 มิ.ย. 67 จนสร้างความโศกเศร้าให้กับคนบันเทิงที่เคยร่วมงานกับแม่แอ๊ดและแฟนคลับที่ติดตามแม่แอ๊ดมาอย่างยาวนาน

ซึ่งวันนี้ (26 มิ.ย.) เป็นวันฌาปนกิจ แม่แอ๊ด โฉมฉาย ท่ามกลางสายฝนที่ตกมาอย่างต่อเนื่อง แต่เหล่าคนบันเทิงมากมายก็ยังคงพร้อมใจกันส่งแม่แอ๊ดสู่สวรรค์เป็นครั้งสุดท้าย โดยในพิธีดังกล่าวได้มีคนดังมาร่วมอย่างมากมาย หนึ่งในนั้นคือ “เอ-ไชยา มิตรชัย” พระเอกลิเกและนักแสดงชื่อดัง ที่เคยร่วมงานกับแม่แอ๊ด ซึ่งหลังพิธีฌาปนกิจแม่แอ๊ดเสร็จสิ้น เอ ไชยา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความทรงจำที่เคยมีต่อแม่แอ๊ดว่า

“ฉากหน้าเมรุตอนถ่ายละครก่อนจะเข้าฉาก แม่ยังยืนขำอาโย่ง เสียงหัวเราะแกยังมีอยู่เลย เพราะอาโย่งแกไปแหย่ไปป่วนกองวันนั้น แม่พูดประมาณว่า มาเผาฉันเหรอ ภาพนั้นมันสะท้อนเข้ามา แล้วมันเห็นในวันนี้ ผมเตรียมทำใจมาแล้วอยากจะเข้มแข็งไม่อยากอ่อนแอ แต่เวลาเราถือกระถางธูป ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดกับเราและแม่ เพราะว่าจริงๆ แล้วมันใจหายพยายามปลอบใจตัวเองว่าแม่ไปดีไปสบาย ผมเชื่ออยู่อย่างนึงว่าไม่อยากร้องไห้ ไม่อยากเสียน้ำตา แกจะได้ไม่มีห่วงแต่รู้ว่าถึงแม่จะไปดีแล้ว แต่เราจะไม่ได้เจอแล้ว มันผูกพันมากกว่าการแสดงละครด้วยกัน ก็ได้บอกว่าแม่ลูกยังระลึกนึกถึงคำสอนของแม่นะ จะคิดถึงในความดีของแม่และคิดถึงในทุกการแสดงของเรา เพราะฉะนั้นวันนี้ทุกคนมาร่วมส่งแม่แล้ว ขอให้แม่ไปสู่ภพภูมิที่ดีไปเป็นนางฟ้าอยู่อย่างมีความสุขและมีรอยยิ้ม เพราะผลงานของแม่มันเยอะมาก ทั้งในเรื่องการแสดง บทบาทของนักแสดง หน้าที่ของนักแสดง แม่เป็นครูที่ดีมากเลยในกอง ผมซึมซับมาคิดว่าตัวเองทำการบ้านมาดีแล้ว จนสุดท้ายเจอแม่ในกอง แม่จะมีกระเป๋าอยู่ใบนึงไว้ใส่บท แม่ไม่เคยถือบทละครหน้ากอง สุดท้ายถ้าจะดูสักหน่อยนึงแกก็จะควักมาดูแล้ววาง พอไปหน้ากองก็ไม่มีการขัดอะไรทั้งสิ้นเรื่องแรกผ่านไป

เรื่องที่สองยิ่งมาเจอแม่แอ๊ดเล่นเป็นแม่ พ่อเปี๊ยก พิศาลเล่นเป็นพ่อ ทั้งสองคน คือปรมาจารย์มากๆ เลย หลักการทำงานของดาราอาวุโสเป็นแบนนี้จริงๆ ในกองหน้าเซตจะไม่มีการคุยกันเลย ไปถึงปั๊บต่อบทเข้าได้เลย มันมีอยู่เรื่องนึงมันมีอยู่เรื่องนึง เขาเล่นเป็นแม่ ผมนั่งกินข้าวเที่ยงอยู่แล้วเป็นซีนที่ผมต้องเถียงกับนางเอกยาวมาก แล้วต้องมีแม่เข้ามาห้าม แม่นั่งท่องบทอยู่ระหว่างกินข้าว แม่แกต่อบทมาให้จากข้างหลัง ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าแกนั่งอยู่ นี่แหละครับคือมืออาชีพจริงๆ เรื่องสุดท้ายที่ได้เล่นกับแก เพราะพี่อาร์ต (ลูกสาวแม่แอ๊ด) แกเป็นผู้จัด บอกเราว่า พี่เอมารับเชิญหน่อยลูกสาวเล่นโปงลาง แม่แอ๊ดก็ถูกรับเชิญมาแล้วมาเจอกันในกอง พอมาเจอกันเรื่องสุดท้าย สิ่งหนึ่งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงเลยคือแม่เปลี่ยนไปจริงๆ แม่บอกว่าแม่ไม่รับละครแล้ว รู้ว่าเป็นเอ็งเลยมา สุดท้ายแม่ไปนั่งเครียดตอนเข้าฉาก ทุกคนเห็นหมดว่าแกเครียด แล้วพี่เดินไปบอกว่าแม่ไม่ต้องเครียด เล่นเลยตามสบาย มันมีการบอกบทเหมือนละครสมัยก่อน”

ขอบคุณภาพประกอบจาก : achaiyamitchai