ในที่สุด แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็ทนเสียงวิจารณ์ไม่ไหว ยอมเปลี่ยนความคิด และปรับรูปแบบการเล่นของทีมชาติอังกฤษ

ใช่! มันอาจจะยังไม่ลงล็อก หรือทำให้ อังกฤษ ดูดีมีออร่าเหมือน สเปน หรือ เยอรมนี แต่อย่างน้อยก็ได้ลองเปลี่ยน และก็เห็นว่า มันดีกว่าเก่าจริงๆ

เกมรอบแรก นัดสุดท้าย สาย C กับ สโลวีเนีย เซาธ์เกต เปลี่ยนผู้เล่นตำแหน่งเดียวจาก 2 เกมแรก

คือส่ง คอนนอร์ กัลลาเกอร์ ลงมาเล่นตรงกลางแทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่โดนวิจารณ์หนัก

แต่มิดฟิลด์จาก เชลซี ก็ไม่ได้ทำให้อะไรเปลี่ยนไปเท่าไหร่ ทั้งเพราะขีดจำกัดเรื่องความสามารถของเจ้าตัว และตำแหน่งตรงนี้ ที่ต้องการนักเตะประเภทอื่น ไม่ใช่แบบ กัลลาเกอร์

เกมครึ่งแรก อังกฤษ ดูเน้นบุกมากขึ้น กล้าเล่น กล้าลุย กล้าได้ กล้าเสีย อาจด้วยเพราะเจอ สโลวีเนีย และโดนวิจารณ์มาหนักด้วย ทำให้ต้องเล่นเอาใจแฟนบอล ที่พวกกูรูที่ด่ากรอกหูทุกวันกันหน่อย

แต่อย่างที่บอกว่า คุณสมบัติของ กัลลาเกอร์ ไม่ใช่นักเตะที่จะมาเล่นตรงนี้คู่กับ ดีแคลน ไรซ์ ครึ่งหลัง เซาธ์เกต เลยลองเปลี่ยนเอา ค็อบบี เมนู ลงมาเล่นแทน ตามคำเรียกร้อง

และนั่นก็คือสิ่งดีที่สุดสำหรับ อังกฤษ นับตั้งแต่เล่นยูโรมาจนถึงตอนนี้ก็ได้

เมนู อาจจะเด็ก แต่ได้เล่นตลอดกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในครึ่งฤดูกาลหลัง และแสดงให้เห็นชัดว่า เล่นได้

เขามีความสามารถ มีความกล้า มีจิตใจที่พร้อมบุกตะลุย และมีความห้าว ไม่กลัวอะไรแบบเด็กดาวรุ่ง

มันอาจจะยังไม่ไหลลื่น เพราะเพิ่งเล่นร่วมกันจริงจังเกมแรก แต่มันก็ดีขึ้นเยอะ เหมือนปลดล็อกได้เสียที

และ เมนู นี่แหละที่เข้ามาดึงสลักตรงนั้นออกไป

ส่งผลให้นักเตะคนอื่นเริ่มมั่นใจ และเล่นเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น

ไรซ์ กลับมาโดดเด่นเหมือนอยู่ อาร์เซนอล

จูด เบลลิงแฮม มีอิสระ ฉีกตัวเองไปริมเส้นก็ได้ หรือตรงไหนก็ได้ ไม่ต้องกังวลกับตำแหน่งตรงกลางอีกแล้ว

ฟิล โฟเดน ได้ความมั่นใจกลับมา พยายามลงมาเอาบอล จับจ่ายไปเองได้ คล้ายๆ ตอนเล่นสโมสร

บูกาโย ซากา หรือ แฮร์รี เคน อาจจะยังไม่เจอเกมที่ดีที่สุด ขาดๆ เกินๆ แต่สิ่งที่ได้มาคือความมั่นใจ

และอิสระในการเล่นเกมรุกเต็มที่ โดยไม่ต้องมามัวกังวลกับเกมรับเหมือน 2 เกมแรก

Cole Palmer

หรือกระทั่ง โคล พาลเมอร์ ก็ได้โอกาสลงสนามเสียที แม้เป็นแค่สำรอง แต่ลงมาก็โชว์ให้เห็นว่าเล่นได้สบาย ให้ลงบ่อยๆ เดี๋ยวมีของดีมาโชว์แน่

เซาธ์เกต จึงมีทางเลือกดีๆ อีกมากมาย ถ้าหากเขาไม่ยึดติดกับการเล่นเพลย์เซฟ เอาชัวร์ไว้ก่อนอย่างเดียว

ถ้า เซาธ์เกต ยังไม่ให้ เมนู เป็นตัวจริงอีก ในเกมรอบ 16 ทีม ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

เพราะนี่คือคีย์แมนคนสำคัญที่จะบอกว่า อังกฤษ จะไปได้ไกลถึงไหนเลยทีเดียว

แต่อย่าลืมว่า รอบต่อไป เป็นรอบน็อกเอาต์ แพ้ตกรอบ เซาธ์เกต อาจจะกลับไปเล่นเหนียวแน่นเหมือนเดิม ซึ่งจะทำให้นักเตะต้องมาพะวงกับเกมรับอีกก็ได้

เกมนี้ เขากล้าเปลี่ยน เพราะเข้ารอบอยู่แล้ว และเจอคู่แข่งไม่หนัก แต่เกมต่อไป เป็นเกมชี้เป็นชี้ตาย เขาอาจจะเลือกเพลย์เซฟเหมือนเดิมก็ได้ ไม่มีใครรู้

และนั่นก็จะทำให้ อังกฤษ กลับไปเหมือนเดิมใน 2 เกมแรกอีกครั้ง

เล่นไม่สวย ยิงไม่ได้ ฟอร์มอึดอัด นักเตะไม่มีอิสระ ไม่อยู่ในฟอร์มกับสโมสร

ดังนั้น ถ้าบอกได้ ก็อยากจะบอกว่า อย่าคิดเยอะ อะไรที่เห็นว่ามันดีอยู่แล้ว ก็ใช้มันไปเถอะ ไม่ต้องไปกลัวโน่นกลัวนี่ให้มันมาก

ถูกต้อง บอลทัวร์นาเมนต์ เกมรับจะทำให้คุณเป็นแชมป์ แต่ในเมื่อวัตถุดิบในมือคุณมันไม่เหมาะกับการเล่นเกมรับ แล้วถ้ายังดึงดันทู่ซี้เล่นเกมรับต่อไป ก็ไม่เป็นธรรมชาติเปล่าๆ

ปล่อยให้ผู้เล่นมีอิสระ เลือกเล่นในสิ่งที่ผู้เล่นของคุณเป็นจริงๆ เปิดโอกาสให้พวกเขาได้โชว์ของที่มี แค่นั้นก็พอ

ด้วยศักยภาพนักเตะอังกฤษชุดนี้มันไปไกลได้อยู่แล้ว อยู่ที่จะมีอะไรมาฉุดเอาไว้ไม่ให้ไปแค่นั้นแหละ.