รายงานข่าวจาก บล.กรุงศรี เปิดเผยว่า หลังจาก บมจ.เอสซีบีเอกซ์ หรือ เอสซีบี ได้ประกาศยุติการให้บริการแอปพลิเคชัน โรบินฮู้ด หรือบริการส่งอาหารของบริษัทย่อย คือ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. 67 เป็นต้นไปนั้น ประเมินว่า จะเป็นผลดีต่อ เอสซีบี เนื่องจากไม่ต้องรับรู้ขาดทุนจากผลการดําเนินงานจากธุรกิจดังกล่าว และในปี 68 จะมีผลบวกจากการที่ไม่ต้องรับรู้ขาดทุนจากผลการดําเนินงาน และคาดว่าการหยุดให้บริการโรบินฮู้ดจะไม่มีผลกระทบต่อการจ่ายปันผลของเอสซีบีด้วย

ขณะที่ บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า การยุติกิจการครั้งนี้ช่วยให้บริษัทไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนช่วง 5 เดือนที่เหลือของปีนี้ประมาณ 900 ล้านบาท แม้จะต้องมีค่าใช้จ่ายชดเชยพนักงาน และตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้แล้วบางส่วน ซึ่งงบดุลของ บมจ.เพอร์เพิล เวนเจอร์ส ณ สิ้นปี 2566 มีสินทรัพย์อยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท (สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนราว 1.9 พันล้านบาท หากมีการตั้งด้อยค่าฯ จะอยู่ในส่วนนี้เป็นหลัก) และหนี้สินรวม 797 ล้านบาท เหลือสินทรัพย์สุทธิ 2.7 พันล้านบาท

ด้าน บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า เป็นการดีที่จะผลักดันให้กลุ่มธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มของเอสซีบีพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักปีนี้หลังจากปี 66 มีขาดทุน 2.2 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการขาดทุนจากแอปพลิเคชัน โรบินฮู้ด ซึ่งเมื่อคำนวณโดยคร่าวๆ หากไม่มีรายการดังกล่าว จะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานปี 67 ในช่วงที่เหลือ 5 เดือนนี้ราว 2% ของคาดการณ์กำไรสุทธิปี 67 ที่ 4.4 หมื่นล้านบาท และปี 68 ทั้งปีเพิ่มขึ้นอีก 5% ของคาดการณ์กำไรสุทธิ 4.69 หมื่นล้านบาท