คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท มีคำสั่งลงโทษการกระทำผิด จากเกมรอบชิงชนะเลิศ รีโว่คัพ ที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 ที่ สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 67

5 เหตุการณ์ไม่ปกติ ที่เกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังเกม คณะกรรมการประชุมเป็นครั้งที่ 2 เพื่อพิจารณา โดยพิจารณาจากรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขัน รายงานของฝ่ายจัดการแข่งขัน คำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ แถลงการณ์จากตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมดูภาพและคลิปเหตุการณ์ประกอบกันแล้ว เห็นว่ามีการลงโทษดังนี้

เหตุการณ์ที่ 1 ก่อนแข่ง กองเชียร์บีจี ปทุม สวมชุดดำโบกธงเชียร์ รวมตัวกันจุดพลุแฟลร์ บริเวณฝั่งอัฒจันทร์ โซน N และ เหตุการณ์ที่ 2 ก่อนแข่ง กองเชียร์เมืองทอง บริเวณโซน S รวมกลุ่มจุดพลุแฟลร์ ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และเป็นรอบชิงชนะเลิศนัดที่สำคัญ ทำให้เกิดภาพลบต่อการแข่งขัน ลงโทษกองเชียร์สโมสรทั้งสองสโมสร มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 ปรับเงินสโมสรละ 60,000 บาท

เหตุการณ์ที่ 3 ช่วงพิธีมอบถ้วย กองเชียร์เมืองทอง ลักลอบนำพลุไฟเข้าไปบนอัฒจันทร์ฝั่งโซน S และ จุดพลุแฟลร์ปรากฏเป็นกลุ่มควัน จำนวน 10-12 อัน ยิงพลุวิถีโค้ง 4-5 อัน จากอัฒจันทร์ตกลงสู่สนาม และบริเวณรอบนอกสนามแข่งขัน มีพลุตกในสนามฟุตบอลหญ้าเทียมภายในสนามธรรมศาสตร์ สเตเดียม ทำให้เกิดความเสียหาย ลงโทษกองเชียร์เมืองทอง ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 วรรคสอง ปรับเงิน 60,000 บาท และต้องรับผิดชอบต่อค่าเสียหายของทรัพย์สินและสถานที่ที่เกิดขึ้นด้วย

เหตุการณ์ที่ 4 หลังจบเกม และเสร็จสิ้นพิธีมอบถ้วย มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกัน ระหว่างกองเชียร์เมืองทอง และ บีจี ปทุม บริเวณลานกิจกรรมโซน E มีการใช้วัสดุทำร้ายตอบโต้กันไปมา เป็นกรณีกองเชียร์ก่อการทะเลาะวิวาทซึ่งกันและกัน ลงโทษกองเชียร์ทั้ง 2 สโมสร มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.10 วรรคสาม ปรับเงินสโมสรละ 50,000 บาท

เหตุการณ์ที่ 5 ในช่วงเวลา 21.00 น. หลังจบพิธีการมอบถ้วยมีเหตุความเสียหายของรถกระบะ เกิดไฟไหม้จากการจุดพลุแฟลร์ เสียหายทั้งคัน ซึ่งจอดอยู่บริเวณพื้นที่ว่างด้านหลังอัฒจันทร์โซน N

เคสนี้ จากการประสานข้อมูล รวมทั้งแถลงการณ์ตำรวจภูธรภาค 1 ผู้จุดพลุแฟลร์คือกองเชียร์ บีจี ปทุม การกระทำนี้ มีความผิดตามกฎหมายอาญา ส่วนความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 วรรคสอง จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 60,000 บาท ถึง 120,000 บาท แต่เนื่องจากบีจี ปทุม บรรเทาความเสียหาย เยียวยาชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายแล้ว (มอบรถคันใหม่ มูลค่า 1.2 ล้านบาท) จึงลงโทษกองเชียร์บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 วรรคสอง ปรับเงิน 80,000 บาท

อย่างไรก็ตาม กองเชียร์บีจี ปทุม เคยถูกลงโทษตามระเบียบข้อนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 67 จึงเป็นการกระทำความผิดซ้ำในข้อเดียวกัน ภายในระยะเวลา 1 ปี พิจารณาปรับเงินเพิ่มอีก 30,000 บาท เป็น 110,000 บาท

สรุปแล้ว เมืองทอง โดนปรับเงิน 170,000 บาท จากการจุดพลุก่อนแข่ง (60,000), จุดพลุหลังแข่ง (60,000) และ ทะเลาะวิวาท (50,000)

ส่วน บีจี ปทุม โดนปรับ 220,000 บาท จากการจุดพลุก่อนแข่ง (60,000), ทะเลาะวิวาท (50,000) และ กองเชียร์จุดพลุทำรถกระบะเสียหาย (110,000) ยังไม่รวมการชดใช้รถกระบะให้ นายอรุณ เชิดโฉม ราคา 1.2 ล้านบาท

เท่ากับว่านัดนี้นัดเดียว สั่งปรับเงินไปรวม 2 ทีม 390,000 บาท