สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ว่านายฮัสโต วาร์โดโย ประธานของบีเคเคบีเอ็น กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดจากภาวะโลกร้อน อาทิ อุทกภัย อาจทำให้หญิงตั้งครรภ์เกิดความเครียด และส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์


ขณะที่รายงานภาวะครรภ์เป็นพิษยังเพิ่มขึ้น ตามปริมาณมลพิษในสิ่งแวดล้อมด้วย โดยภาวะครรภ์เป็นพิษคือการที่ผู้หญิงมีความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นมากจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และมักเกิดในช่วงการตั้งครรภ์ระยะ 20 สัปดาห์


ข้อมูลสถิติระดับชาติ ระบุว่า อัตราการเสียชีวิตของมารดาในอินโดนีเซีย อยู่ที่ 189 รายต่อการให้กำเนิดทารก 100,000 คน ซึ่งสูงกว่าอัตราเป้าหมายที่ 70 ราย ต่อการให้กำเนิดทารก 100,000 คนอย่างมีนัยสำคัญ


ด้านสถิติจากกระทรวงการส่งเสริมพลังสตรีและการคุ้มครองเด็กของอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ทารกมากกว่า 50% ซึ่งมารดาเสียชีวิตระหว่างการคลอดบุตร ไม่สามารถอยู่รอดได้หลังขวบปีแรก การเสียชีวิตของมารดาจึงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับการเสียชีวิตของทารก


นอกจากนี้ วาร์โดโยยังกล่าวอีกว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่เพียงแต่ทำให้ปัญหาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์รุนแรงขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากความร้อน และการปนเปื้อนของน้ำและอากาศในอินโดนีเซีย อีกทั้งยังทำให้คุณภาพอากาศแย่ลงจนนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนในระบบทางเดินหายใจ และภาวะขาดแคลนอาหาร.

ข้อมูล : XINHUA

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES