เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. พ.ต.ต.ธนาคาร อุชรัศมี สว.กก.6 บก.ป. นำหมายจับของศาล จ.สงขลา ลงวันที่ 4 มิ.ย. 67 จับกุม น.ส.กิตติยา (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาคดีจำหน่ายยาเสพติด ได้ที่บ้านพัก ในพื้นที่หมู่ 10 ซอยอรนพ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ เนื่องจากไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ที่ส่งหมายเรียกให้ไปฟังคำพิพากษา เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 67 จึงถูกศาลออกหมายจับทันที
สืบเนื่องจากเมื่อปี 60 น.ส.กิตติยา ถูกจับกุมพร้อมยาบ้า 128,000 เม็ด ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้คงเหลือจำคุก 50 ปี ซึ่งได้ติดคุกมา 5 ปี 3 เดือน ก่อนกระทรวงยุติธรรม ได้ออกกฎหมายปรับโทษเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้จำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ทางอัยการจึงยื่นอุทธรณ์ และเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ศาลจังหวัดสงขลาได้ส่งหมายเรียกให้จำเลยมารับฟังผลการอุทธรณ์ ในวันที่ 4 มิ.ย. แต่ว่าไม่มา จึงถูกศาลออกหมายจับ เพราะมีพฤติกรรมหลบหนี
ภายหลังถูกจับ น.ส.กิตติยา ให้การว่า เรื่องนี้ก่อนหน้า ญาติซึ่งอยู่ที่ อ.ควนเนียง จ.สงขลา แจ้งมาว่า มีหมายศาลจังหวัดสงขลา ส่งมาที่บ้านให้ไปฟังคำตัดสิน ในวันที่ 4 มิ.ย. จึงได้โทรฯ ไปปรึกษาเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เพื่อนบอกว่ายังไม่ต้องไปและไม่ต้องกลัว ให้เฉยๆ เอาไว้ เพราะจะมีการออกหมายเรียก 3 ครั้ง ถึงจะออกหมายจับได้ ค่อยไปครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ตนเชื่อเพื่อนจึงไม่ได้ไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
ทั้งนี้ ขณะถูกจับกุม น.ส.กิตติยา ได้ขอโทรฯ ไปถามเพื่อนสนิทคนนี้อีกครั้ง ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า หมายเรียกแค่ครั้งเดียวจะมาจับได้ไง แม้ว่าจะยืนยันว่าถูกตำรวจจับแล้ว และถูกคุมตัวไปโรงพัก เพื่อนคนนี้ก็ยังเถียงว่าจับไม่ได้ เพราะถูกออกหมายเรียกแค่ครั้งแรกเท่านั้น
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบฯ เห็นว่า ทั้งเพื่อนทั้ง น.ส.กิตติยา ไม่เข้าใจขั้นตอนกฎหมาย จึงได้อธิบายให้ทราบว่า นี่คือหมายเรียกของศาลให้ไปฟังคำพิพากษา ไม่ใช่หมายเรียกของพนักงานสอบสวนที่ออกหมายเรียกไปสอบปากคำ ซึ่งจะออกหมายเรียก 3 ครั้งจริง ถ้าไม่มาก็จะออกหมายจับ แต่ถ้าเป็นหมายเรียกของศาลให้ไปฟังคำพิพากษา ถ้าไม่มาก็จะถูกออกหมายจับทันที เพราะมีพฤติกรรมหลบหนี ทั้งเพื่อนทั้ง น.ส.กิตติยา จึงถึงบางอ้อทันที โดยเฉพาะ น.ส.กิตติยา เมื่อได้รู้ความจริงถึงกับระบายกับตำรวจกองปราบฯ ว่าไม่น่าเชื่อเพื่อนเลย รู้อย่างนี้ตนไปฟังคำตัดสินตั้งแต่แรกแล้ว ถ้ามีหมายจับมาแบบนี้ ตนอาจจะติดคุกเพิ่มไปอีก 6 เดือนแน่ๆ เพราะกุนซือไม่ดี เชื่อเพื่อนเกินไป ทำให้ต้องซวยแบบนี้.
