เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กล่าวภายหลังทราบข่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ยื่นฟ้องตนเองข้อหาหมิ่นประมาทฯ จากกรณีให้สัมภาษณ์ยืนยันข้อเท็จจริงให้ประชาชนและสื่อมวลชนเข้าใจว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเว็บพนันออนไลน์

“ยินดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะฟ้องร้องตนเอง เพราะจะได้นำพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีออกมาเปิดเผยกับศาลและสาธารณชน ซึ่งเรื่องนี้มองว่าเป็นสิทธิที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สามารถทำได้ โดยหลังจากนี้ หากการฟ้องร้องไปถึงในชั้นศาล จะนำพยานหลักฐานที่มีไปชี้แจงเพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของตนเองเช่นกัน ว่าตนเองรู้ข้อมูลพยานหลักฐานหรือการกระทำใดๆ บ้าง” พล.ต.วินัย กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่าที่ประชุมอนุกรรมการ ก.ตร. มีคะแนนเอกฉันท์ 10 ต่อ 0 ว่า กรณีที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ขณะที่เป็นรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เซ็นหนังสือคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ ถูกต้องตามระเบียบตาม พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 พล.ต.อ.วินัย กล่าวว่า มีการประชุมเรื่องดังกล่าวจริง เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยตนเองเป็นประธานการประชุมอนุ ก.ตร. ซึ่งจากการพิจารณา พ.ร.บ.ตำรวจ รวมถึงกฎหมายลูกอื่นๆ คณะอนุกรรมการลงความเห็นในครั้งแรกออกมาเป็นเอกฉันท์ว่า การเซ็นหนังสือคำสั่งดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบต่างๆ แต่มีการลงมติในรอบที่ 2 เนื่องจากมีผู้มาเข้าประชุมเพิ่มอีก 1 คน ทำให้การการลงมติเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่ลงมติความเห็นตามเดิม แต่มีอนุกรรมการ 1 คนที่งดออกเสียง

ทั้งนี้ ผลการลงมติดังกล่าว จะนำส่งต่อไปให้นายกรัฐมนตรีและที่ประชุมคณะ ก.ตร. ชุดใหญ่ ซึ่งจะมีการประชุมในวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยมติความเห็นของอนุกรรมการ จะถูกนำไปประกอบกับความเห็นของคณะกฤษฎีกา และความเห็นของผู้ร่วมเข้าประชุมคนอื่นๆ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีผลชี้ขาดในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตนเองไม่สามารถก้าวล่วงได้