เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 25 มิ.ย. ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน นำเอกสารหลักฐานเดินทางเข้าร้องเรียนกับนายรภัสสิทธิ์  ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิ และนายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิ เพื่อขอให้ช่วยเหลือหลังถูกอาจารย์หนุ่มชื่อดัง ดีกรีปริญญาเอก สอนเทรดทองใช้โปรไฟล์หรู สามีนางเอกช่องดัง ชวนลงทุนเทรดทองโดยจะได้กำไรมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ลงทุนไป แต่พอจะถอนเงินกลับถอนไม่ได้ สูญเงินรวมกันเกือบ 20 ล้านบาท

น.ส.แพร อายุ 40 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว หนึ่งในตัวแทนผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนรู้จักกับอาจารย์คนดังกล่าวจากเพื่อนที่แนะนำว่าอาจารย์คนนี้เก่งเรื่องการสอนเทรดทองจนได้กำไรดีหลายเท่าตัว จึงลองศึกษาดู ก็พบว่าที่เฟซบุ๊กของอาจารย์คนดังกล่าวมีการไลฟ์สดสอนเทรดทองและได้ผลตอบแทนสูง โดยมีการโชว์การโอนเงินเข้าไปเทรดจำนวน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งก่อนที่ตนจะตัดสินใจนำเงินไปร่วมลงทุนได้หาข้อมูลอาจารย์คนนี้ก็พบว่าเขามีโปรไฟล์ดี ใช้ชีวิตหรูหรา มีฐานะ มีหน้ามีตาในสังคม ออกทีวีบ่อย นอกจากนี้ยังเป็นสามีนางเอกช่องดังอีกด้วย จึงหลงเชื่อนำเงินเก็บของตนไปร่วมลงทุนเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 66 จำนวน 200,000 บาท ก็ได้กำไรจริง หลังจากนั้นก็ลงทุนเรื่อยมา จนกระทั่ง 16 เม.ย. 67 ตนทำเรื่องขอถอนเงินทั้งหมดกลับไม่สามารถถอนเงินได้ในระบบอ้างว่ารอดำเนินการ จนผ่านไปนานกว่า 1 เดือนจึงรู้ว่าถูกหลอก

จึงได้สอบถามไปในกลุ่มคนที่ลงทุนเหมือนกันที่มีอยู่กว่า 500 คน จึงทราบว่ามีคนที่โดนหลอกเหมือนตนเป็นจำนวนมาก บางรายหนักสุดหลายล้านบาทจนแทบหมดตัว พอตรวจสอบเว็บไซต์ที่เปิดให้เข้าไปร่วมลงทุนก็พบว่าทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ฯ ได้มีหนังสือแจ้งไปที่ ป.ป.ท.แล้วว่าเว็บไซต์ดังกล่าวกับอาจารย์คนนี้ประกอบธุรกิจผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต พวกตนที่ตกเป็นผู้เสียหายหลายสิบราย จึงได้ติดต่อสอบถามไปที่อาจารย์คนดังกล่าวก็ได้รับคำตอบว่าเขาก็เป็นผู้เสียหายถูกเว็บไซต์หลอกเหมือนกัน

ส่วนเรื่องเงินที่ลงทุนไป เขาไม่รับรู้ไม่รับผิดชอบ พวกตนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว มืดแปดด้าน เงินที่นำมาลงทุนก็เป็นเงินเก็บที่จะเอาไว้ใช้ตอนแก่ บางคนก็เอาบ้านเอารถไปจำนองนำเงินมาลงทุน ตอนนี้กลายเป็นไม่เหลืออะไร จึงรวมตัวกันมาร้องขอให้ทางมูลนิธิช่วยเหลือในเรื่องคดี

นายชาญชัย ที่ปรึกษามูลนิธิ กล่าวว่า เว็บไซต์ดังกล่าวมีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และพ.ร.บ.ฟอกเงิน หลังจากนี้ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เสียหายว่าถูกถ่ายโอนไปอยู่กับใคร

ด้านนายรภัสสิทธิ์ รองประธานมูลนิธิ กล่าวว่า เรื่องนี้วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาตรวจสอบเว็บไซต์และอาจารย์คนดังกล่าวอย่างรวดเร็ว ส่วนผู้เสียหายรายอื่นที่ยังไม่ได้แจ้งความควรรีบมาแจ้งความดำเนินคดีเพราะเวลาที่เจ้าหน้าที่เขาดำเนินคดีไปแล้วจนมีการยึดอายัดทรัพย์นั้น เขาจะเฉลี่ยเงินคืนให้กับคนที่เข้ามาแจ้งความรักษาสิทธิของตนก่อน ส่วนคนที่ไม่แจ้งความก็จะเสียสิทธิไป อย่าไปอายหรือกลัว