นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าภารกิจการขุดลอกพัฒนาและบำรุงรักษาร่องน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้รวมทั้งหมด 3 จังหวัด ได้แก่ 1.บริเวณท่าเทียบเรือกรมหลวงชุมพร อ.แหลมงอบ จ.ตราด 2.ร่องน้ำบ้านหัวแหลม อ.นายายอาม จ.จันทบุรี 3.ร่องน้ำบางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ 4.ร่องน้ำคลองวาฬ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยว กิจการประมงและเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคใต้ ทำให้เรือสามารถเข้า-ออกร่องน้ำ เทียบท่าได้ตลอดเวลา เกิดความสะดวกและปลอดภัย
สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาร่องน้ำที่ 5 ดำเนินการขุดลอกร่องน้ำท่าเทียบเรือกรมหลวงชุมพร จ.ตราด ปฏิบัติการขุดลอกโดยเรือเจ้าท่า ข.23 เรือเจ้าท่า 223 ระยะทาง 1,050 เมตร ความลึก 2.00-2.50 เมตร จากระดับน้ำลงต่ำสุด ปริมาณวัสดุขุดลอก 96,635 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันผลงานขุดลอก ได้ระยะทาง 186 เมตร คิดเป็น 7.24% และการขุดลอกร่องน้ำบ้านหัวแหลม จ.จันทบุรี ปฏิบัติการขุดลอกโดยรถขุด จบ.2 และเรือเจ้าท่า ข.400 ขุดลอกระยะทาง 1,750 เมตร ความกว้างก้นร่องน้ำ 10 เมตร ความลึก 1.50 และ 1.00 เมตร จากน้ำลงต่ำสุด ปริมาณวัสดุขุดลอก 48,999.75 ลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันขุดลอกได้ระยะทาง 1,186 เมตร คิดเป็น 68.21%
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ขณะที่สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 6 ดำเนินการขุดลอกร่องน้ำเขาแดง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ใช้เรือเจ้าท่า ข.19 เรือเจ้าท่า219 ขุดลอกความกว้างที่ก้นร่องน้ำตามแผน 30 เมตร ระยะทางยาว 1,700 เมตร ระดับความลึกที่ก้นร่องน้ำ 1.50 เมตร (จากระดับน้ำลงต่ำสุด) ตั้งแต่ กม.ที่ 0+150 ถึง กม.ที่ -1+550 ปัจจุบันได้ระยะทาง 25 เมตร ปริมาณเนื้อดิน 1,674 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 1.47%
และการขุดลอกร่องน้ำคลองวาฬ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปฏิบัติงานขุดลอกโดยเรือเจ้าท่า ข.21 และเรือ เจ้าท่า 221 ขุดลอกตั้งแต่ กม.ที่ -0+600 ถึง กม.ที่ -0+800 ได้ระยะทางยาว 200 เมตร ความกว้างที่ก้นร่องน้ำ 40 เมตร ระยะทางยาว 1,300 เมตร ระดับความลึกที่ก้นร่องน้ำตามแผน 2.5 เมตร (จากระดับน้ำลงต่ำสุด) ปัจจุบันขุดลอกได้ระยะทาง 200 เมตร ปริมาณเนื้อดิน 19,486 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 16.23%
นายวิทยา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามเมื่อแล้วเสร็จจะช่วยแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ความตื้นเขินของร่องน้ำ เรือประมง เรือสปีดโบ๊ท เรือขนส่งสินค้าสามารถสัญจรเข้า-ออกได้สะดวก ปลอดภัยตลอดเวลา ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภายใต้การปฏิบัติด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) และขอความร่วมมือติดตามข้อมูลข่าวสารพยากรณ์อากาศ หรือประกาศของกรมเจ้าท่า ระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงฤดูมรสุม หากพบเห็นความไม่ปลอดภัยทางน้ำ สามารถโทรสายด่วนกรมเจ้าท่า 1199 ตลอด 24 ชม.
