เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 67 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้เร่งรัดดำเนินคดีกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และภรรยา 

นายษิทรา กล่าวว่า เนื่องด้วยคดีที่ สน.เตาปูน ไม่มีความคืบหน้า ไม่มีการเรียกใครไปแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งที่เส้นทางการเงินในบัญชีเห็นชัดเจนว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีคนในครอบครัวของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประเด็นนี้ตนอยากถามนายกรัฐมนตรีด้วยว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทั้งที่รู้ว่า ผบ.ตร. ถูกดำเนินคดีรับเงินคดีเว็บพนัน แต่กลับไม่มีการทำอะไรและอนุญาตให้กลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิม อีกทั้งตนอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนข้อขัดแย้งที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น เชื่อว่าประชาชนอยากรู้ว่าการใช้เวลา 3 เดือน ในการตรวจสอบผลตรวจสอบเป็นอย่างไร ประชาชนไม่ได้อยากรู้ใครทะเลาะกับใครประชาชนต้องการรู้ว่าใครผิดหรือใครถูก มั่นใจว่าทางคณะกรรมการต้องมีการเอื้อประโยชน์ให้กับ ผบ.ตร.

นายษิทรา กล่าวอีกว่า การที่ สน.เตาปูน ไม่มีการดำเนินการอะไรเพิ่มเติม ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา แน่นอนว่าพนักงานสอบสวนจะต้องมีความเกรงกลัวเพราะผู้ที่เขาจะต้องดำเนินคดีคือผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสำนักงานตำรวจ ทั้งที่อยู่ในระหว่างการสอบหาข้อเท็จจริง ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ต้องถูกออกจากราชการชั่วคราวแต่ ผบ.ตร. ได้กลับมาทำงานปกติ ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่าพยานหลักฐานเห็นชัดเจนควรจะเรียกผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้แล้ว เชื่อว่าถ้าเป็นประชาชนธรรมดา คดีนี้คงจะมีการดำเนินคดีไปแล้ว

“การดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะต้องมีเกียรติมีศักดิ์ศรีหากพบว่ามีพยานหลักฐาน โดยเฉพาะเส้นทางการเงินที่ชัดเจน และยังคงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อไป ก็อาจทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสีย และเป็นเหมือนไม่เห็นหัวประชาชน ที่นายกฯ จะสามารถแต่งตั้งใครขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ได้ โดยที่ไม่ตรวจสอบมาก่อน หรือขึ้นอยู่กับดีล ดังนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จึงควรลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” ทนายตั้ม กล่าว

ทั้งนี้มีรายงานว่า ในการเดินทางมายื่นคำร้องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติวันนี้ นายษิทราได้นำรถยนต์ส่วนตัวไปจอดในที่จอดรถของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เมื่อนักข่าวถามว่าเหตุใดจึงนำรถส่วนตัวไปจอดในรถของผู้บังคับบัญชา นายษิทรา กล่าวว่า เห็นว่าที่จอดรถว่างอยู่จึงนำรถตัวเองเข้าไปจอดเฉยๆ เพราะใน ตร. หาที่จอดรถยากจะตาย 

อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วจะไม่มีการอนุญาตให้รถยนต์ของประชาชนทั่วไป เข้าไปจอดในช่องจอดรถยนต์เฉพาะสำหรับผู้บังคับบัญชา โดยหากมีการประสานงานมาล่วงหน้า เจ้าหน้าที่จะจัดที่จอดรถในอีกพื้นที่ให้ ซึ่งไม่ใช่ช่องจอดเฉพาะของผู้บังคับบัญชา