ฟังฝ่ายพรรคก้าวไกลเขาบอกว่า ถ้ากฎหมายดิจิทัลวอลเล็ตผ่าน เขาจะไปยื่นศาลปกครอง ซึ่งตรงนี้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยบอกว่างง เพราะไม่เคยเห็นมีกรณีกฎหมายผ่านวาระสามแล้วจะไปยื่นศาลปกครอง ซึ่งก็รอดูกันไปก่อน เพราะพรรคก้าวไกลเขาก็คงมียุทธวิธีลู่ทางของเขาอยู่

ในที่สุดก็คิดไม่ผิดว่า ดิจิทัลวอลเล็ตเป็นประเด็นที่ถูกโจมตีมากที่สุดว่า เป็นการใช้เบี้ยหัวแตก ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะมีการนำไปซื้อสินค้าไทย เพราะคนก็เอาไปซื้อของร้านสะดวกซื้อหรือโชห่วย แล้วไม่ทราบว่า การจ่ายเงินเป็นเบี้ยหัวแตกระยะสั้นจะสร้าง “พายุหมุน” ทางเศรษฐกิจในระยะยาวได้อย่างไร คือคำตอบก็ไม่ชัดเจน

คงต้องรอให้มีการใช้ก่อนกระมัง แต่เชื่อเถอะว่าเงินแค่หมื่นเดียว เดือนเดียวก็หมด ใครคิดว่านี่คือโอกาสในการเพิ่มกำลังการผลิตกรุณาคิดเสียใหม่ ไม่งั้นมีโอกาสได้มีหนี้สินแทนกำไร ขณะที่ “เสี่ยนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เอง ก็พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจโดยบอกว่า ปีหน้าจะขยายการท่องเที่ยว และจะมีแผนกระตุ้นออกมาในสัปดาห์นี้

แม้เงินดิจิทัลยังยึกๆ ยักๆ แย่ๆ ยันๆ ไม่ชัดเจนว่าจะเอาอย่างไร ให้ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือไม่ แต่จะให้รัฐบาลมะงุมมะงาหราอยู่แค่เรื่องนี้เห็นจะไม่ไหว (ถึงหลายคนบอกว่า เอาให้ชัดซักทีเถอะ จ่อประชุมๆ อยู่นั่น) นายกฯ ก็ต้องเดินหน้างานอื่นๆ โดยเฉพาะงานที่มีสีสันให้เป็นที่พูดถึงมาก เพื่อ “เบี่ยงประเด็น” ได้บ้าง

เรื่องแรก คือเรื่องที่จะให้ต่างด้าวเข้ามาเช่าอสังหาริมทรัพย์ได้ 99 ปี ถือสิทธิในห้องชุดคอนโดฯ ได้ 75% ก็เป็นลักษณะการ “โยนหินถามทาง” ที่ยังไม่อึงอลนักเพราะยังให้มหาดไทยไปศึกษาแนวทาง เรื่องนี้สงสัยถ้าพูดในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ คงถูกด่าไม่หยุดว่าขายชาติ แต่มารัฐบาลนี้กลายเป็นเพื่อการลงทุนระยะยาว

ฟังเสียงทางเอกชนเขาก็มีความเป็นห่วง โดยเฉพาะการถือสิทธิในห้องชุดคอนโดฯ ได้ 75% เพราะกลัวว่าจะมีการกว้านซื้อแล้วเอาไปให้เช่าต่อเป็นการลงทุนห้องเช่าซึ่งถูกกว่าโรงแรม เป็นการเอาเปรียบผู้ประกอบการโรงแรมไทย หรือไม่ก็ถ้ามองในแง่อาชญากรรม เขาก็กลัวจะกลายเป็นการรวมแหล่งอาชญากรจากต่างประเทศก็ได้  

จึงฝากทางออกมาให้เสี่ยนิดพิจารณาว่า “ถ้าเช่นนั้นต้องลดสัดส่วนสิทธิในการโหวตนิติบุคคลของต่างด้าวลง” หรือไม่ก็ต้องมีการตรวจเข้มโดยเฉพาะในจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยว ไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ แม้กระทั่งการเพิ่มมาตรการทางภาษีสำหรับคนที่จะเข้ามาใช้ผลประโยชน์ตรงนี้ คือต้องชำระสูงกว่าคนไทย..ก็ดึงดูดนักลงทุนนี่

อีกประเด็นหนึ่งที่เสี่ยนิดเพิ่งคุยในรายการคุยกับเศรษฐา คือเรื่องการที่มีข้อบ่นค่าไฟแพง นายกฯ คิดถึงพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นพลังงานที่หลายประเทศในโลกใช้ เพราะเป็นพลังงานสะอาด และเราก็มีการศึกษา ส่งนักวิชาการไปเรียนเมืองนอก มีศูนย์ปรมาณูเพื่อสันติอยู่แถว ม.เกษตรศาสตร์ บางเขนนี่เอง

ปัญหาคือ หลายคนอาจหวาดกลัวกับกรณีสร้างเตาปฏิกรณ์ไม่ได้มาตรฐาน บ้านเรามันมีปัญหาโกงกิน ล็อกสเปก ลดสเปกกันบ่อย สร้างที่ไหนคนไทยขนหัวลุกทั่วกันว่ากัมมันตภาพรังสีจะรั่วจะอะไรหรือไม่ หรือวันดีคืนดีเร่งกำลังการผลิตระเบิดตู้มเหมือนเชอร์โนบิลขึ้นมา เรื่องเตานิวเคลียร์นี่ ศึกษาให้ดีแต่ทำกันไม่มีธรรมาภิบาลก็จบ

นี่คือสองเรื่องที่น่าสนใจนำมาถกเถียงกันในช่วงนี้นอกจากเงินดิจิทัล.