เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ น.ส.ปาล์ม (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ สื่อมวลชนในจ.พัทลุง ว่ามีตำรวจเรียกรับเงินวิ่งเต้นคดี 30,000 บาท ภายหลังต่อรองเหลือ 15,000 บาท ทั้งนี้ น.ส.ปาล์ม เล่าว่า นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ลูกชายของตนถูกจับคดีใช้ปืนยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ภายหลังเข้ามอบตัวกับตำรวจสภ.เมืองพัทลุง ก่อนถูกแจ้งข้อหา พยายามฆ่าและความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน มีการสอบปากคำก่อนส่งศาลเด็กและเยาวชนตามขั้นตอนกฎหมาย ก่อนที่ญาติจะยื่นประกันตัวออกมาได้ แต่จู่ ๆ ทางพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้ติดต่อมาหาตนหลายครั้ง โดยขู่ว่า จะดำเนินคดีกับตนผู้เป็นแม่ด้วย ในข้อหา “…ปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลบุตรหลาน…” แต่หากไม่อยากถูกดำเนินคดีให้เอา “ไอ้นั่น” มาแลก ทำให้ตนยอมจ่ายเงินไปให้ 3 พันบาท

ปรากฏว่า อีกฝ่ายบอกว่าไม่พอ เรียกเงินเพิ่มอีก 3 หมื่นบาท ตอนนั้นตนไม่มีเงินจริง ๆ แต่พอหยิบยืมคนในครอบครัวได้บ้าง จึงต่อรองจนหลือ 1.5 หมื่นบาท ก่อนเตรียมจะโอนไปให้ แต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่รับโอน ให้ไปกดเงินมาให้แทน โดยมีการนัดมารับเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็ม หน้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.พัทลุง กระทั่งตำรวจยศ “ร้อยเอก” ขี่จยย.ยามาฮ่าฟีโน สีขาวฟ้า ใส่เสื้อยืดสีดำแบบตำรวจ หน้าอกด้านซ้ายมีโลโก้ มารับเงินไปจากมือ มีการซักถามตนว่า ลูกมึงอยู่ไหน พอบอกว่าอยู่ที่บ้าน นายตำรวจก็บอกว่า ลูกมึงมันร้ายน่ะ..ก่อนจะขี่จยย.ออกไป ทั้งนี้ ช่วงที่นัดมารับเงินนั้นตนมีคลิปหลักฐานว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง

น.ส.ปาล์ม ยังระบุด้วยว่า เรื่องทางคดีของลูกชายนั้น มีข้อสงสัยหลายอย่าง ตั้งแต่การสอบปากคำลูกชายตอน 3 ทุ่ม ทั้งที่เขาเป็นเด็กและไม่มีสหวิชาชีพอยู่ด้วย ตนโทรถามญาติ ญาติก็บอกว่าเป็นเรื่องไม่เป็นธรรม ทั้งยังมีการเรียกเงินตบทรัพย์แบบนี้ ตนจึงได้แต่มาพึ่งสื่อมวลชนเพราะไม่กล้าเข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.เมืองพัทลุง เพื่อที่จะสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ โดยนำคลิปเสียงตอนคุยเรียกรับเงิน ไปจนถึงนัดหมายมารับเงิน พร้อมกับภาพที่หน้าตู้เอทีเอ็ม มาส่งมอบให้ตรวจสอบ โดย พ.ต.อ.จุมพฎ เลี่ยมแก้ว ผกก. สภ.เมืองพัทลุง เปิดเผยว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องดังกล่าวจากสื่อ และเชื่อว่าข้อมูลที่สื่อได้มาคือเรื่องจริง และจะเรียกตำรวจคนดังกล่าวมาสอบถามเพื่อหาข้อมูลที่เกิดขึ้น พร้อมจะตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนอีกครั้งหนึ่ง โดยจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้เสียหายและตำรวจ ทุกอย่างอยู่ภายใต้หลักฐานที่เป็นจริง ๆ จะไม่อุ้มตำรวจหากกระทำผิดเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากเรื่อง นายตำรวจสภ.เมืองพัทลุง เรียกรับเงินถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่า นายตำรวจรายดังกล่าว ได้นำเงิน 1.5 หมื่นบาทไปส่งคืนให้ น.ส.ปาล์ม ทั้งยังระบุว่าให้เอาเงินคืนไป และหากว่างหรือสะดวก ให้มาพบกันที่โรงพักเพื่อให้ปากคำชี้แจงกับผู้บังคับบัญชา ขณะเดียวกันเมื่อสื่อมวลชนไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ นายตำรวจรายนี้ กลับปฏิเสธอ้างว่า ยังไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ขอไปตั้งสติก่อน.