สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ว่ากระทรวงการต่างประเทศรัสเซียออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการเชิญนางลินน์ เทรซี เอกอัครราชทูตสหรัฐ เข้าพบ “เพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการ” เกี่ยวกับเหตุการณ์กองทัพยูเครนใช้ขีปนาวุธของสหรัฐโจมตีคาบสมุทรไครเมีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 150 คน
ขณะที่นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า การที่สหรัฐ “มีความเกี่ยวข้องโดยตรง” กับเหตุการณ์โจมตีครั้งนี้ ที่ส่งผลให้มีพลเมืองรัสเซียเสียชีวิต “เป็นกรณีซึ่งรัฐบาลมอสโกไม่สามารถเพิกเฉยได้” และสหรัฐ “ต้องร่วมรับผิดชอบกับยูเครน”
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ ว่ากองทัพยูเครนเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ โดยใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีระยะทำการไกล “อะแทคซิมส์” (Army Tactical Missile System – ATACMS) และเป็นการใช้หัวรบระเบิดดาวกระจาย พร้อมทั้งยืนยันว่า ระบบป้องกันทางอากาศของกองทัพรัสเซียที่ประจำการอยู่บนคาบสมุทรไครเมีย สามารถสกัดการโจมตีของขีปนาวุธดังกล่าวได้ 4 ลูก อย่างไรก็ตาม มีขีปนาวุธลูกหนึ่ง “เปลี่ยนพิสัยทำการ”
จนถึงตอนนี้ กองทัพยูเครนยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ที่เกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังกองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีอาคารที่พักอาศัยแห่งหนึ่ง ในเมืองคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 50 คน.
เครดิตภาพ : AFP
