เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายชำนาญ จันทร์เรือง แกนนำคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า การที่จะนำคดีเกี่ยวกับเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ไปศาลปกครองนั้น หมายถึงคดีปกครองที่เกี่ยวกับวินัยการคลังและการงบประมาณโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นคดีพิพาททางปกครองตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง และมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ในกรณีการฝ่าฝืนข้อกำหนดเกี่ยวกับการบริหารการเงินและการคลังที่ออก ตามความในกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือข้อกำหนดอื่นใดที่เกี่ยวกับการรับ การเบิก การจ่าย การใช้จ่าย การบริหารงบประมาณ และก่อหนี้ผูกพัน การจัดเก็บรายได้ การใช้ประโยชน์ การเก็บรักษาการพัสดุ และการจัดการซึ่งเงินทรัพย์สิน สิทธิประโยชน์ใด ๆ ของหน่วยงานทางปกครอง ที่ได้มาจากเงินงบประมาณ เงินนอกงบประมาณ เงินกู้ เงินอุดหนุน เงินบริจาค และเงินช่วยเหลือจากแหล่งในประเทศหรือต่างประเทศ อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือวัตถุประสงค์ของหน่วยงานทางปกครอง

นายชำนาญ ระบุต่อว่า ทั้งนี้ หมายความรวมถึงเงิน ทรัพย์สิน สิทธิและผลประโยชน์ดังกล่าวที่หน่วยงานทางปกครองมีอำนาจ หรือสิทธิใช้จ่ายหรือประโยชน์ด้วย ซึ่งเป็นความผิดวินัยทางการคลังและการงบประมาณและได้รับการลงโทษปรับทางปกครองตามกฎหมาย คนละเรื่องกับการนำไปคดีไปศาลรัฐธรรมนูญกรณีร่าง พ.ร.บ.งป. ผ่านรัฐสภาแล้วก่อนทูลเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธย #กิ้งกือยังตกท่อ.