สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ว่ามีคำเตือนให้ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งอาศัยอยู่ในภูมิภาคทางตอนกลางของสหรัฐ ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วม หลังเผชิญกับฝนตกหนักมาเป็นเวลาหลายวัน โดยรัฐที่มีความเสียหายรุนแรงสุด ได้แก่ ไอโอวาและเซาท์ดาโคตา ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์

นางคริสตี โนเอม ผู้ว่าการรัฐเซาท์ดาโคตา เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายจากน้ำท่วม ขณะที่นางคิม เรย์โนลด์ส ผู้ว่าการรัฐไอโอวา เรียกเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ว่าเป็น “หายนะ” และประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติใน 21 เมือง

นอกจากนั้น รัฐอื่น ๆ ที่ประกาศเตือนน้ำท่วมที่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ เนแบรสกา, มินนิโซตา และวิสคอนซิน อย่างไรก็ดี คำเตือนดังกล่าวสิ้นสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามประกาศของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ (เอ็นดับเบิลยูเอส) ส่วนคำเตือนอื่น ๆ จะมีผลบังคับใช้จนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม

ประชาชนสัญจรท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด บริเวณสวนสาธารณะ ใกล้กับกรุงวอชิงตัน เมืองหลวงของสหรัฐ

ระดับแม่น้ำในไอโอวาเพิ่มสูงขึ้น กว่าอุทกภัยเมื่อปี 2536 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 50 ราย และมีการเตือนเพิ่มเติมว่า น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่สุดอาจเกิดขึ้น ในวันจันทร์และอังคารนี้ ขณะที่ประชาชนราว 4,000 คน ของเมืองร็อกแวลลีย์ ในรัฐไอโอวา ต้องอพยพ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองเพิ่มสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน เอ็นดับเบิลยูเอสเตือนประชาชนมากกว่า 120 ล้านคน ให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาพอากาศร้อนจัด ที่อาจกินเวลาตลอดสัปดาห์นี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงถึงเกือบ 37 องศาเซลเซียส ตั้งแต่กลางมหาสมุทรแอตแลนติก, ตอนล่างของแม่น้ำมิสซิสซิปปี, อุทยานแห่งชาติเกรตเบซิน ในรัฐเนวาดา ทางตะวันตกของประเทศ ไปจนถึงรัฐแคลิฟอร์เนีย และอิทธิพลของคลื่นความร้อนในบางพื้นที่ อาจกินเวลานานที่สุดในรอบหลายสิบปี

อนึ่ง นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดขั้วเกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล และการตัดไม้ทำลายป่า โดยคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) รายงานว่า คลื่นความร้อนทั่วโลกเกิดขึ้นถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้น ตั้งแต่ปี 2493.

เครดิตภาพ : AFP, GETTY IMAGES