เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 67 นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเรือหางยาว ชื่อเรือ ช ชนากานต์ 2 ว่า พบซากพะยูนลอยอยู่กลางทะเล จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิชาการฯ เข้าตรวจสอบ พบซากพะยูน สัตว์ป่าสงวน ลำดับที่ 6 ลักษณะลอยหงายท้องติดอวนอยู่ในทะเลยาว ห่างจากฝั่งประมาณ 600 เมตร ท้องที่หมู่ที่ 2 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ บริเวณพิกัด 47 P 479214 E 887952 N (WGS1984) ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เจ้าหน้าที่จึงทำการตัดอวนและลากพะยูนขึ้นมาบนฝั่งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และดำเนินการตรวจสอบพะยูน ผลการตรวจสอบอย่างละเอียด

โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรายละเอียดซาก และเก็บข้อมูลพร้อมเก็บกู้อวนปูดังกล่าว นำซากพะยูนดังกล่าวมาตรวจวัดขนาด เก็บรายละเอียด พยานหลักฐาน ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ปรากฏว่าเป็นพะยูนเพศเมีย มีลักษณะติดอวนปู ลักษณะเชือกไนลอน และตาข่ายเอ็น พันบริเวณโคนหางและปลายหางแน่นจนไม่สามารถว่ายน้ำขึ้นมาหายใจได้ คาดว่าตายเพราะขาดอากาศหายใจ เนื่องจากพะยูนต้องขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำทุก 3-5 นาที ไม่พบร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด โดยวัดขนาดความยาว 210 เซนติเมตร ขนาดรอบตัว 130 เซนติเมตร ขนาดโคนหาง 46 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้ว พื้นที่ที่ตรวจพบซากพะยูนดังกล่าว เป็นเส้นทางเคลื่อนย้ายหากินของพะยูน ซึ่งอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้มีประกาศอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ฉบับลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2557 เรื่อง มาตรการและข้อปฏิบัติในการอนุรักษ์พะยูนและแหล่งหญ้าทะเล โดยห้ามทำการประมงทุกชนิด บริเวณพื้นที่แหล่งหญ้าทะเล และห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง พฤติกรรมการกระทำของ บุคคลได้ลักลอบเข้าไปวางอวนปูในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเป็นพื้นที่มิได้กำหนดไว้ผ่อนผันให้อนุญาตให้ทำประมงพื้นบ้านในบริเวณดังกล่าว เป็นเหตุให้สัตว์ป่าสงวน ซึ่งใกล้สูญพันธุ์ตายลง การกระทำของบุคคลดังกล่าว เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึก พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน แจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวนาง เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป