สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ว่า พล.อ.อ.ชาร์ลส์ บราวน์ จูเนียร์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐ กล่าวถึงการที่รัสเซียและเกาหลีเหนือลงนามร่วมกัน ในข้อตกลงยกระดับความสัมพันธ์ สู่การเป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุม” ว่าอาจกลายเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับจีน และสิ่งที่น่าสนใจนับจากนี้ คือการจับตาท่าทีของทั้งสามประเทศ


ทั้งนี้ นักวิเคราะห์หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การยกระดับความร่วมมือระหว่างรัสเซียกับเกาหลีเหนือ อาจกลายเป็นการทำให้ทั้งสองประเทศมีอำนาจต่อรองกับจีนมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม พล.อ.อ.บราวน์ กล่าวว่า สหรัฐมีความวิตกกังวลต่อข้อตกลงนี้เช่นกัน แต่ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ด้วยการที่ข้อตกลงยังคงมีเงื่อนไขหลายประการ เมื่อวิเคราะห์ลงในรายละเอียด จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไปเช่นกัน ว่ารัสเซียและเกาหลีเหนือจะสามารถได้สิ่งที่ต้องการ “ครบถ้วน” หรือไม่


สาระสำคัญของข้อตกลงดังกล่าว คือการที่รัสเซียและเกาหลีเหนือ “มอบความสนับสนุนและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” ในกรณีที่อีกฝ่าย “เผชิญกับการถูกคุกคามด้วยความก้าวร้าว” และข้อตกลงยังระบุว่า ห้ามรัสเซียและเกาหลีเหนือลงนามในข้อตกลงลักษณะเดียวกันนี้ กับประเทศอื่นด้วย


การเยือนเกาหลีเหนือของปูตินครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี หรือตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งในเวลานั้น ปูตินเดินทางมายังกรุงเปียงยาง หลังรับตำแหน่งผู้นำรัสเซียสมัยแรกได้ไม่นาน และพบหารือกับนายคิม จอง-อิล ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือในเวลานั้น

ทั้งนี้ รัสเซียและเกาหลีเหนือเป็นพันธมิตรแน่นแฟ้นต่อกัน ตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต และความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เมื่อรัฐบาลมอสโกเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารในยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งส่งผลให้สหรัฐและพันธมิตรรวมตัวกันคว่ำบาตรรัสเซียอย่างต่อเนื่อง.

เครดิตภาพ : AFP