เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ก้าวสู่วันที่ 23 ของการจัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งพบว่า พี่น้องประชาชนในแต่ละเส้นทางของแต่ละจังหวัดที่ได้ทราบข่าว ต่างให้ความสนใจ และเดินทางมาร่วมเป็นกำลังใจให้กับขบวนธงตราสัญลักษณ์ฯ กันอย่างเนืองแน่นในทุกเส้นทางของแต่ละจังหวัด โดยทุกคนต่างพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง มาร่วมแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีอย่างล้นหลาม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ดูแลกันและกันตลอดเส้นทาง และด้วยความภาคภูมิใจนี้จะช่วยเพิ่มความรักและความสามัคคีของคนไทยให้แนบชิดใกล้กันมากขึ้น อันเป็นการสนองพระราชปณิธาน “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพราะทุกคนต่างภูมิใจที่ได้เป็นพสกนิกรที่ดีใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะธำรงความเป็นไทยให้คงอยู่อย่างยั่งยืน

“เมื่อนับรวมระยะทางการเดินวิ่งปั่นธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในห้วง 23 วันที่ผ่านมานี้ ทุกจังหวัดได้ร่วมกันเดิน วิ่ง ปั่น รวมระยะทางแล้วยาวไกลถึง “9,800 กิโลเมตร” โดยทุกสายทางจะเชิญธงตราสัญลักษณ์ฯ เพื่อตั้งธงไว้ ณ จังหวัดปริมณฑลและจังหวัดโดยรอบกรุงเทพมหานครทั้ง 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดนนทบุรี ก่อนจะเชิญธงตราสัญลักษณ์ฯ ทั้ง 720 ผืน มายังศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมขบวนเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งในวันนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองธงตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ใน 2 จังหวัด รวม 4 สาย ได้แก่ 1) สายที่ 1 และสายที่ 2 ได้รวมสายและจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองธงตราสัญลักษณ์ฯ ณ จังหวัดอุทัยธานี โดยได้มีการฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ การจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี และ 2) สายที่ 3 และสายที่ 4 ได้รวมสายและจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองธงตราสัญลักษณ์ฯ ที่บริเวณบึงพระราม ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยมีการฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมจิตอาสา กิจกรรมการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม โดยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศให้ความสนใจและบันทึกภาพการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้ด้วยความตื่นตาตื่นใจและชื่นชมในพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจงรักภักดีของคนไทยที่ต่างสวมใส่เสื้อสีเหลือง มาร่วมกิจกรรมกันอย่างเนืองแน่น โดยในส่วนของสายที่ 5 ถึงสายที่ 10 ได้มีการเชิญและตั้งธงไว้ที่ศาลากลางจังหวัดสระบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดนนทบุรี” นายสุทธิพงษ์ฯ

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับมอบธงตราสัญลักษณ์ ฯ ต่อจาก นายพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ณ หมวดทางหลวงบางปะหัน อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการรับมอบธงตราสัญลักษณ์ฯ แล้ว ตนได้นำขบวน เดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ เคลื่อนที่ออกจาก หมวดทางหลวงบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางไปยังวัดตนุ ตำบลหันสัง อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้นำธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ จัดขบวนรถเชิญธงฯ โดยทีมขบวนจักรยานปั่นนำ ไปยังวัดพระศรีสรรเพชญ์ ต่อด้วยยังศาลากลางหลังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (หลังเก่า) และเดินต่อไปยังบริเวณลานวัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา พร้อม ขบวนช้าง จำนวน 10 เชือก เพื่อเชิญธงตราสัญลักษณ์ฯ ไปประดับไว้ ณ บริเวณพิธี เพื่อเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองธงตราสัญลักษณ์ฯ ต่อไป

นายนิวัฒน์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ ทุกภูมิภาคของประเทศ ได้ร่วมแรงรวมใจเข้าร่วมกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ธงตราสัญลักษณ์ฯ ที่จะจัดขึ้นในแต่ละจังหวัด ไม่ว่าจะเดิน วิ่ง ปั่น หรือ ร่วมแจกจ่ายน้ำ หรือกิจกรรมจิตอาสาอื่น เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความสามัคคีของเราทุกคน และแสดงถึงความรักของคนไทยที่มีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการปฏิบัติบูชา ลุกขึ้นมา เดิน วิ่ง ปั่น ออกกำลังกาย เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทที่ทรงเป็นต้นแบบของการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ที่ทำการปกครองจังหวัด หรือ สำนักงานจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารศาลากลางจังหวัด หรือ ที่ทำการปกครองอำเภอ ณ ที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ หรือ สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง