จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก ‘นฤมล จันเกตุ’ ได้มีการโพสต์เผยแพร่คลิปวิดีโอขนาดความยาว 2.16 นาที พร้อมกับระบุว่าเป็นคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่งานกีฬาสีโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง โดยสาเหตุเกิดขึ้นเพราะคุณครูใช้ให้นักเรียนไปปิดสวิตช์น้ำ ทำให้นักเรียนโดนไฟดูดและเสียชีวิต ประกอบกับมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีการเข้าไปช่วยเหลืออย่างล่าช้านั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายชัยณรงค์ ช่างเรือ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ตรัง-กระบี่ ต้นสังกัดของโรงเรียนกันตังรัษฎาศึกษา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า จากการสอบถามทาง ผอ.โรงเรียนฯ ดังกล่าว เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนกันตังรัษฎาศึกษา อ.กันตัง จ.ตรัง เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มิ.ย. เวลาประมาณช่วงเที่ยง หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง (พฐ.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว

ซึ่งในวันเกิดเหตุทางผู้บริหารก็อยู่ในโรงเรียนฯ พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย เนื่องจากมีงานกีฬาสีกันอยู่ ซึ่งก็เป็นวันที่ฝนตกหนัก ประกอบกับเด็กนักเรียนตัวเปียก ปรากฏว่าไฟได้รั่วบริเวณจุดนั้น เนื่องจากเบรกเกอร์รวมไฟอยู่บริเวณตรงนั้นพอดี และฝนก็ตกลงมาจุดนั้น ทำให้ไฟฟ้าลงกราวด์ที่พื้น ก็เลยไม่มีใครที่จะเข้าไปตอนนั้น ทำให้ต้องไปรีบสับสวิตช์ไฟก่อน ถึงจะนำเด็กนักเรียนออกมาจากจุดที่เกิดเหตุ และรีบนำส่งโรงพยาบาลในทันที แต่ปรากฏว่าเด็กนักเรียนได้เสียชีวิตลง

ส่วนประเด็นที่บอกกันว่ามีคุณครูใช้ให้ไปปิดสวิตช์ และมีการใช้ให้นักเรียนไปกดน้ำจากจุดนั้น ส่วนนี้ยังไม่เป็นข้อเท็จจริง เนื่องจากทาง ผอ.โรงเรียนฯ ยืนยันว่า ตู้กดน้ำดังกล่าวไม่ได้มีการใช้งานแล้ว เพราะเครื่องมีอายุกว่า 10 ปีแล้ว และเป็นตู้ที่อยู่ก่อนที่ ผอ.โรงเรียนฯ คนปัจจุบันจะเข้ามาอยู่อีก เพียงแต่ว่าเบรกเกอร์จุดรวมไฟได้ติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังตู้ผลิตน้ำพอดี และฝนตกหนัก น้ำฝนได้รั่วลงมา จนทำให้ไฟฟ้ารั่วลงกราวด์ ประกอบกับนักเรียนตัวเปียกอยู่แล้ว เนื่องจากแข่งกีฬาสี และไปเดินอยู่บริเวณนั้นจึงทำให้ไฟดูดเข้า

แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลที่เปิดเผยเพียงแค่การบอกเล่าและจากการสอบถามเท่านั้น ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ ภายหลังจากทราบเรื่อง ตนก็ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จในทันที พร้อมทั้งรายงานเรื่องไปยัง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงศึกษาธิการทราบเรื่องแล้ว ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาก็ห่วงใยในเรื่องนี้ เพื่อให้ได้ข้อมูลและสั่งการกำชับให้โรงเรียนฯ เข้าไปดูแลงานศพของนักเรียนตลอด และในส่วนของการเยียวยา ในเรื่องการจัดทำศพ เรื่องสภาพจิตใจ และเบื้องต้นในวันเกิดเหตุผู้บริหารโรงเรียนฯ ได้ช่วยเหลือเงินเบื้องต้นไปแล้วจำนวน 2 หมื่นบาท และก็ได้ช่วยเหลือเงินในเบื้องต้นไปอีกจำนวน 1 แสนบาท

ซึ่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง นำมารวมกับผลของทางพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) จะทราบอย่างละเอียดและชัดเจนในวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) และในวันพรุ่งนี้ตนจะเดินทางไปยังงานบำเพ็ญกุศลศพของนักเรียนด้วยตนเอง พร้อมกับนำพวงหรีดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาฯ สพฐ. ด้วย พร้อมกับจะเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพ หลังจากนี้คงจะมีมาตรการการใช้ตู้ไฟฟ้า ตู้กดน้ำ หากหมดสภาพต้องรื้อถอนออกเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน.