เรื่องราวของคนไข้ที่กินยาแก้ปวดในปริมาณที่น่าตกใจถึง 1,176 เม็ดนี้ได้รับการเปิดเผยผ่านช่องยูทูบของ “Chubbyemu” เป็นกรณีของคนไข้ชายวัย 34 ปีรายหนึ่งผู้ใช้นามสมมติว่า “เอสบี” ทีเกือบจะไตพังเพราะกินยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์

คนไข้รายนี้มีงานอดิเรกเป็นนักวิ่ง ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีอาการปวดกล้ามเนื้อและรู้สึกเจ็บตรงนั้นตรงนี้เป็นประจำ และเขาก็มักจะใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้บ่อย ๆ แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือเขาเข้าใจผิดเกี่ยวกับวิธีใช้ยาและปริมาณเหมาะสมที่ควรกิน

เอสบีไม่เข้าใจคำแนะนำในฉลากการใช้ยา เขาจึงใช้วิธีกินยาแก้ปวดทีละ 7 เม็ดใน 24 ชั่วโมง แทนที่จะเป็นการเฉลี่ยกินครั้งละ 1-2 เม็ด เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของเขา และเมื่อกินไปนาน ๆ เข้าก็ติดนิสัยพึ่งพายาแก้ปวดจนขาดไม่ได้และเริ่มกินยาครั้งละหลาย ๆ เม็ด

เวลาผ่านไปเพียง 2-3 สัปดาห์ เอสบีก็เริ่มกินยาแก้ปวดในปริมาณมากจนน่าตกใจคือวันละ 28 เม็ด ซึ่งเกินปริมาณสูงสุดที่กำหนดไว้สำหรับผู้ใหญ่ว่าควรกินยาเม็ดขนาด 200 มก. ไม่เกินวันละ 3 เวลา ครั้งละ 1-2 เม็ดเท่านั้น

เอสบีกินยาแก้ปวดในปริมาณวันละ 28 เม็ดอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งถึงวันหนึ่ง เมื่อเขากินยาแก้ปวดไอบูโพรเฟนไป 1 กำมือและรู้สึกเหมือนกลืนยาลงไม่ได้หมด เขาออกปากบ่นว่าเหมือนกับมียาค้างคาอยู่ตรงช่องอก

หลังจากนั้นอาการของเขาก็แย่ลง เขาเริ่มเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง แต่เขาก็ยังไม่ยอมไปหาหมอ กลับหันไปกินยาแก้ปวดมากกว่าเดิมเพื่อบรรเทาอาการ

นอกจากนี้เขายังเริ่มรู้สึกว่ามีเลือดออกในปาก อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระมีสีดำ

สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจที่จะไปโรงพยาบาลหลังจากที่ปัสสาวะไม่ออกและมีอาการเวียนศีรษะ ปวดไปทั่วตัวและอ่อนเพลียอย่างมาก

ทีมแพทย์ที่ทำการตรวรรักษาสังเกตเห็นว่าเขาดูซีดมาก ความดันโลหิตของเขาลดต่ำมากเวลาที่เขาลุกขึ้นยืน แต่อัตราการเต้นของหัวใจกลับเพิ่มขึ้นจนน่ากลัว

พวกเขายังพบว่าชายหนุ่มมีภาวะโลหิตจาง ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมีเลือดออกจากอวัยวะภายใน ซึ่งมีส่วนทำให้เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือดด้วย

หลังจากการตรวจและทดสอบหลายอย่าง ผลก็ออกมาว่าการกินยาแก้ปวดไอบูโพรเฟนในปริมาณมากเกินพอดีทำให้คนไข้หนุ่มมีแผลพุพองในหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร ซึ่งทำให้มีเลือดออกภายในอวัยวะเหล่านั้น นอกจากนี้ เขายังเริ่มมีภาวะไตวายพ่วงเข้ามาด้วย

ทีมแพทย์จึงจัดการฟอกไตให้เขาอย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาอาการไตวายและจัดการห้ามเลือดที่ออกมาจากอวัยวะภายใน

หลังจากนั้นเอสบีก็ค่อย ๆ รักษาตัวจนกระทั่งหายดีในที่สุด

ที่มา : ladbible.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES