เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. มีรายงานว่า เวลาประมาณ 05.30 น. ช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มกองกำลังพิทักษ์ประชาชน PDF ซึ่งจัดกำลังจรยุทธ์ ไม่ทราบจำนวน ได้ก่อเหตุเข้าซุ่มโจมตีและยิงปะทะกับฐานตำรวจเมียนมา ที่อยู่บริเวณเชิงเขา หมู่บ้านหมาราง ต.เขม่าจี อ.เกาะสอง จ.เกาะสอง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านน้ำแดงนอก หมู่ 5 ต.น้ำจืดน้อย อ.กระบุรี จ.ระนอง เสียงอาวุธปืนได้ยินชัดเจนมาถึงฝั่งไทยในหลายหมู่บ้าน นานนับชั่วโมง ก่อนล่าถอยออกจากหมู่บ้านไปด้วยรถจักรยานยนต์ เบื้องต้น กองกำลัง PDF เสียชีวิตจากการปะทะ 2 ราย ตามคำบอกเล่าของผู้อพยพ ส่วนชาวบ้านในหมู่บ้านและตำรวจประจำฐาน ยังไม่ทราบการสูญเสีย

ต่อมา มีผู้อพยพชาวเมียนมา 182 คน ชาย 42 คน หญิง 96 คน เด็ก 44 คน ทยอยกันนั่งเรือหางยาวข้ามลำน้ำกระบุรี มายังช่องทางธรรมชาติ บ้านน้ำแดงนอก ต.น้ำจืดน้อย ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับบ้านหมาราง และมีลูกกระสุนปืนมาตกใส่หลังคาบ้านลงบนที่นอนของนายประสิทธิ์ เสนาการ ชาวบ้านบ้านน้ำจืดน้อย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย

หลังเกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าไปในพื้นที่บ้านน้ำแดงนอก จุดที่มีชาวบ้านอพยพ บริเวณทางหลวงชนบท รน.1009 ซึ่งตลอดลำน้ำกระบุรีที่เป็นช่องทางธรรมชาติ จะมีรั้วลวดหนามกั้นเป็นช่วงๆ โดยฝั่งหมู่บ้านหมาราง ที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ปรากฏว่าในหมู่บ้านไม่มีใครเคลื่อนไหวในพื้นที่ ส่วนทางเข้าไปยังศูนย์อพยพผู้ลี้ภัยชั่วคราว บ้านน้ำแดงนอก ได้มีชุด ชรบ.หมู่บ้าน และกำลัง อส. ของฝ่ายปกครองอำเภอกระบุรี ได้วางรั้วเหล็กกั้นบนถนน ให้รถส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปยังจุดอพยพลี้ภัยสงครามได้ แต่ไม่ให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ตัวอำเภอกระบุรี ซึ่งเป็นย่านตลาดเก่า ประชาชนอาศัยกันอยู่หนาแน่น ในเขตเทศบาลตำบลน้ำจืดน้อย ส่วนที่ท่าเทียบเรือประจำอำเภอ มี ชรบ.ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านมายืนรักษาการณ์อยู่บริเวณท่าเรือ ที่เป็นช่องทางหลักที่พี่น้องทางฝั่งบ้านทรายปู จะเดินทางมาซื้อขายสินค้าจากฝั่งไทยโดยทางเรือ โดยมีลำน้ำกระบุรีกั้นอยู่ และสามารถมองเห็นกันได้ทั้งสองฝั่ง ประชาชนยังใช้ชีวิตปกติ ไปมาหาสู่กัน ส่วนจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างกับตัวอำเภอกระบุรี ประมาณ 6-7 กม. ชาวบ้านก็จะตั้งชุมชนกันอยู่ริมน้ำ สามารถเดินทางไปมาหาสู่ด้วยทางเรือ และจะมีถนนคอนกรีตและถนนลาดยางเล็กๆ เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้าน เหตุการณ์ทั่วไปในช่วงบ่ายกลับมาปกติ ยังไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น.