สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ว่า ศาลสวิตเซอร์แลนด์มีคำพิพากษาจำคุกสมาชิกครอบครัวฮินดูจาทั้ง 4 คน พร้อมประณามพวกเขาว่า “เห็นแก่ตัว” ฐานกดขี่ลูกจ้างชาวอินเดีย ซึ่งทำงานอยู่ในคฤหาสน์ที่เมืองเจนีวา อย่างไรก็ตาม จำเลยยังมีสิทธิยื่นอุทธรณ์

ซันเดย์ ไทม์ส รายงานว่า จำเลยพ้นผิดในข้อหาค้ามนุษย์ แต่มีความผิดในข้อกล่าวหาอื่น โดยนายปรากาช ฮินดูจา วัย 78 ปี และนางคามาล ฮินดูจา ภรรยาวัย 75 ปี ได้รับโทษจำคุกคนละ 4 ปี 6 เดือน

ขณะที่นายอาเจย์ บุตรชายวัย 56 ปี และนางนัมราตา สะใภ้ วัย 50 ปี ได้รับโทษจำคุก 4 ปี พวกเขาถูกตัดสินว่าได้ “ขูดรีด” ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้อพยพชาวอินเดีย “ความไม่มีประสบการณ์ของเขาทำให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ” ผู้พิพากษา ซาบีนา มาสคอตโต กล่าวว่า โจทก์มีการศึกษาน้อยหรือไม่มีเลย และไม่มีความรู้เรื่องสิทธิของตน “แรงจูงใจของจำเลยนั้นเห็นแก่ตัว” พร้อมเสริมว่าครอบครัวนี้ “สนใจเพียงผลประโยชน์ของตนเอง”

อย่างไรก็ตาม ศาลยกฟ้องครอบครัวฮินดูจา ในข้อหาค้ามนุษย์ เนื่องจากลูกจ้างสมัครใจเดินทางจากอินเดียไปยังสวิตเซอร์แลนด์ แต่มีความผิดฐานยึดหนังสือเดินทางบรรดาลูกจ้าง นายอีฟ แบร์ตอสซา อัยการ กล่าวว่าพวกเขาใช้จ่ายกับ “สุนัข” มากกว่าค่าจ้างคนงานในบ้าน ในจำนวนเพียง 325 ฟรังก์ต่อเดือน (ราว 13,342 บาท) ซึ่งน้อยกว่าแรงงานทั่วไปถึงร้อยละ 90 “จำเลยทั้ง 4 คน ทราบถึงจุดอ่อนของเหล่าลูกจ้าง และพวกเขาเข้าในกฎหมายของสวิตเซอร์แลนด์เป็นอย่างดี” มาสคอตโตกล่าว

กระนั้น ครอบครัวฮินดูจาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด มากไปกว่านั้น ครอบครัวฮินดูจาบรรลุข้อตกลงประนีประนอมยอมความนอกศาล กับโจทก์ทั้ง 3 คน ส่งผลให้มีการถอนฟ้องแล้ว แต่อัยการยืนยันที่จะดำเนินคดีต่อไป เนื่องจากข้อกล่าวหามีความร้ายแรง หลังคำตัดสิน แบร์ตอสซาได้ร้องขอคำสั่งควบคุมตัวอาเจย์และนัมราตา ในทันที โดยอ้างว่าพวกเขามีความเสี่ยงหลบหนี แต่ผู้พิพากษาปฏิเสธ

ตอนนี้ รายงานระบุว่า คามาล อยู่ระหว่างเข้ารับการรักษาอาการป่วย ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่โมนาโก และสมาชิกในครอบครัวอีก 3 คน คอยอยู่ดูแลเธอ ทุกคนแสดงความประสงค์ ไม่เข้าร่วมการพิจารณาคดีต่อ เนื่องด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ

ขณะเดียวกัน ทนายความฝ่ายจำเลยได้อุทธรณ์คำตัดสิน พร้อมระบุว่า พวกเขา “ตกใจและผิดหวัง” กับคำตัดสินของศาล “ครอบครัวนี้มีศรัทธาอย่างเต็มที่ในกระบวนการยุติธรรม และยังคงมั่นใจว่าความจริงจะชนะ” นายนิโคลัส ฌองแด็ง ทนายความบอกกับศาล ว่าลูกจ้างทั้งสามคนได้รับผลประโยชน์เพียงพอ, ไม่ได้ถูกแยกออกจากกัน และมีอิสระในการออกจากวิลล่า

ด้านนายโรเบิร์ต อัสซาเอล ทนายความอีกคนของฝ่ายจำเลย กล่าวว่า แท้จริงแล้ว ลูกจ้างเหล่านี้ “รู้สึกขอบคุณครอบครัวฮินดูจา ที่มอบชีวิตที่ดีขึ้นให้พวกเขา”.

เครดิตภาพ : AFP