สำนักข่าวต่างประเทศรายงานการเสียชีวิตของดาราอาวุโส “โดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์” ผู้โด่งดังจากบทบาทของ “ประธานาธิบดีสโนว์” ในภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games โดยอ้างอิงจากข้อความล่าสุด ที่ลูกชายของเขาโพสต์บนโซเชียลมีเดีย
“ผมขอบอกกล่าวแก่พวกคุณด้วยความอาลัยจากใจว่า พ่อของผม โดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์ เสียชีวิตแล้ว” คีเฟอร์ ซัทเธอร์แลนด์ ลูกชายคนโตของดาราอาวุโสผู้ล่วงลับ โพสต์ข้อความบนเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ของเขา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ซัทเธอร์แลนด์ ผู้มีบุคลิกอันโดดเด่น โดยเฉพาะดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยแววตาอันเฉียบคม ทำให้บทบาทที่เขาแสดงมีความลึกซึ้งและเป็นที่ติดตาตรึงใจผู้ชมมาหลายรุ่น ตลอดระยะเวลากว่า 5 ทศวรรษ ที่เขาโลดแล่นอยู่บนจอภาพยนตร์ อำลาโลกไปด้วยวัย 88 ปี ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุของการเสียชีวิต
แม้จะเป็นดาราฮอลลีวูด แต่ซัทเธอร์แลนด์เป็นชาวแคนาดาโดยกำเนิด เขาแสดงได้หลายบทบาท ตั้งแต่ฝ่ายธรรมะไปจนถึงฝ่ายอธรรม ซึ่งหนึ่งในบทบาทยุคหลังที่ทำให้คนรู้จักและจดจำเขาได้ดีที่สุดบทบาทหนึ่งก็คือ การสวมวิญญาณของ “ประธานาธิบดีสโนว์” ผู้ชั่วร้ายในภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games
คีเฟอร์ ซัทเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นนักแสดงเช่นกัน เขียนถึงพ่อของเขาว่า “โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่า เขาเป็นนักแสดงคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ เขาไม่เคยหวั่นใจกับบทบาท ไม่ว่าจะเป็นบทคนดี คนเลวหรือคนทุเรศ เขารักสิ่งที่เขาทำและทำสิ่งที่เขารัก ใครก็ไม่อาจจะขออะไรได้มากไปกว่านี้แล้ว เป็นชีวิตที่อยู่มาคุ้มค่ามาก”
กระทั่งนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แห่งแคนาดา ก็ยังร่วมกล่าวยกย่องต่อดาราคนสำคัญของชาติในงานแถลงข่าว “ผมมีโอกาสได้พบกับ โดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์ เมื่อตอนที่ยังเด็กมาก และแม้ว่าตอนนั้นผมยังอายุน้อย และไม่เคยพบกับความปราดเปรื่องอันลึกซึ้งของ โดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์ อย่างเต็มที่ ผมก็ยังรู้สึกประทับใจกับความเป็นดาราของเขาอย่างลึกซึ้ง
“เขาเป็นผู้ชายที่มีรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่ง มีความยอดเยี่ยมในงานที่เขาทำ และเป็นศิลปินชาวแคนาดาผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง และเราจะคิดถึงเขาอย่างสุดซึ้ง”
ฝ่ายประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ก็กล่าวยกย่อง ซัทเธอร์แลนด์ เช่นกัน โดยระบุว่า เขาเป็น “นักแสดงที่ไม่มีใครเหมือน ผู้ให้แรงบันดาลใจ และมอบความบันเทิงแก่ชาวโลกมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ”
โดนัลด์ ซัทเธอร์แลนด์ เริ่มเข้าสู่วงการนักแสดงตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 ผลงานในยุคเริ่มแรกที่สร้างความโดดเด่นให้เขา ได้แก่ The Dirty Dozen, M*A*S*H, Klute, Don’t Look Now
ช่วงทศวรรษที่ 1980 เขามีผลงานเด่นหลายเรื่อง เช่น Backdraft, Six Degrees of Separation, Ordinary People และเมื่อย่างเข้าสู่ยุคสหัสวรรษ เขาก็มีผลงานอย่าง The Italian Job, Pride & Prejudice รวมทั้งบทบาทตัวร้ายที่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักของผู้ชมรุ่นใหม่ในภาพยนตร์ชุด The Hunger Games
ด้านรางวัลทางการแสดงนั้น ซัทเธอร์แลนด์ เคยได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัลหลายครั้ง ทั้งด้านภาพยนตร์และโทรทัศน์ โดยเคยได้รับรางวัลไพรม์ไทม์ เอมมี และรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง Citizen X ในปี 2538, รางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง Path to War ในปี 2545, รางวัลคริติกส์ ชอยส์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง The Undoing ในปี 2563 นอกจากนี้ ยังเคยได้รับรางวัลออสการ์สาขารางวัลเกียรติยศแก่ผู้มีผลงานดีเด่นในวงการเมื่อปี 2560
เครดิตภาพ : AFP
